วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
ข่าว

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มอบรางวัล Sustainability Awards 2022 แก่ผู้จำหน่าย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นพร้อมส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในทุกภาคส่วนทั้งระดับบุคคล ภาครัฐ ภาคธุรกิจและสัคม จัดพิธีมอบรางวัลแก่
ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูที่ชนะรางวัล Sustainability Awards 2022 ในสองสาขา ได้แก่ รางวัลยอดเยี่ยมด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน (Excellence in Renewable Energy Initiatives) ให้แก่ เชิดชัย ออโต้เฮ้าส์ และรางวัลยอดเยี่ยมด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน(Excellence in Sustainable Business Initiatives) ให้แก่
โรปา มอเตอร์ โดยโครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงาน เพื่อผลักดันกลุ่มผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการให้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงริเริ่มแนวทางแก้ไข พร้อมขับเคลื่อนสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ยั่งยืน

รางวัล Sustainability Awards 2022 สำหรับเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Choice is Yours ซึ่งริเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ด้วยเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยแบ่งกิจกรรมในโครงการออกเป็นสองส่วน ได้แก่ การแข่งขัน Choice is Yours สำหรับนิสิตนักศึกษา และรางวัล Sustainability Awards เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในเครือข่ายผู้จำหน่าย ภายใต้ 4 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย REthink REduce REuse และREcycle ทั้งนี้ รางวัลสำหรับเครือข่ายผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการดังกล่าวแบ่งเป็นสองสาขา ซึ่งผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการที่เข้าร่วมการแข่งขันต้องแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจและการลงมือปฏิบัติจริงจนมีผลลัพธ์อันเป็นที่ประจักษ์ โดยตัดสินภายใต้เกณฑ์หลัก 3 ข้อ ได้แก่ การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมของพนักงานและลูกค้า และความคิดสร้างสรรค์

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนมาโดยตลอด โดยภายในปี พ.ศ. 2593 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ตั้งเป้าบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน นับตั้งแต่การผลิตไปจนถึงสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกคน ด้วยความเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้เมื่อทุกภาคส่วนร่วมมือกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้จำหน่าย ซึ่งนับว่ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและดำเนินธุรกิจอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เราพร้อมสนับสนุนและผลักดันโครงการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการดำเนินงานที่ลดผลกระทบและสร้างความตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแบบแผนทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจ ส่งต่อประสบการณ์จากการรับบริการที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ผ่านโครงการ Choice is Yours ครั้งนี้”

ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการที่คว้ารางวัลยอดเยี่ยมด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน (Excellence in Renewable Energy Initiatives) ได้แก่ เชิดชัย ออโต้เฮ้าส์ ซึ่งดำเนินกิจการโดยให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานหมุนเวียนผ่านแผงโซลาร์ เซลล์ ที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 158,000 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง (kWh) คิดเป็น 37% ของการใช้พลังงานทั้งหมด หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1,750 ต้น เพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าในศูนย์บริการและสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่จุดบริการ Solar Carport

สำหรับรางวัลยอดเยี่ยมด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Excellence in Sustainable Business Initiatives) เป็นของ ยุโรปา มอเตอร์ ซึ่งริเริ่มโครงการด้านความยั่งยืนแบบองค์รวมในชื่อ “Come Along the Way” สะท้อนหลักการด้านความยั่งยืนตาม 4 หัวข้อหลัก REthink REduceREuse และ REcycle พร้อมมุ่งเน้นการผสานแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินธุรกิจอย่างรอบด้าน

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป  

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้
แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิตมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก  

 

ในปี พ.ศ. 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.5 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 194,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2564 อยู่ที่ 16.1 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 111.2 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 118,909 คนทั่วโลก 

 

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี โดยวางรากฐานความสำคัญสำหรับอนาคตตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตั้งแต่กระบวนการการผลิตสินค้าไปยังผู้บริโภค หรือซัพพลายเชนในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย  

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย  

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสี่บริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยูและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคลและบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู พาร์ทส์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตชิ้นส่วนสำหรับการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ณ จังหวัดระยอง  

ในปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 11,032 คัน โดยแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 9,982 คัน และยอดจดทะเบียนรถยนต์มินิ 1,050 คัน ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดรวม 1,197 คัน  

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู
แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยูมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก  

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่าง ๆ ทั้งหมด 18 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็ม
ดับเบิลยู X5 บีเอ็มดับเบิลยู X6 และบีเอ็มดับเบิลยูู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็ม
ดับเบิลยู F 900 XR บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู
แฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive  

Thep Neng
the authorThep Neng

ใส่ความเห็น