มร. มิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 หรือ Thailand International Motor Expo 2022 นับว่าเป็นงานจัดแสดงรถยนต์ที่สร้างบรรยากาศการซื้อ-ขาย ระหว่างผู้บริโภคและผู้จำหน่ายได้เป็นอย่างดี เพราะมีผู้เข้าร่วมชมงานอย่างคับคั่ง ส่งผลให้ยอดจองรถยนต์ซูซูกิภายในงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมียอดจองรวมอยู่ที่ 2,464 คัน จากกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่มอบความไว้วางใจและเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SUZUKI SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กยังเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่เข้าไปอยู่ในใจคนไทยและได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์ได้จากการที่เป็นรถที่มียอดจองสูงที่สุดของซูซูกิ และถูกเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายและแตกต่างของผู้บริโภคด้วยการแนะนำNEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID ด้วยเครื่องยนต์ SMART HYBRID เต็มที่ทุกฟังก์ชัน ตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ SHVS จากซูซูกิ ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator หรือ ISG พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION เพื่อเสริมการขับเคลื่อนให้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนัก และชาร์จกระแสไฟ (Regenerative) เข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ มีส่วนสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษออกจากเครื่องยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยยอดการจองในแต่ละรุ่นแบ่งเป็นดังนี้
ชื่อรุ่น |
จำนวนการจอง (คัน) |
SUZUKI SWIFT |
1,003 |
NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID |
310 |
SUZUKI CELERIO |
381 |
SUZUKI CARRY |
326 |
SUZUKI XL7 |
295 |
SUZUKI CIAZ |
93 |
SUZUKI ERTIGA |
56 |
รวม |
2,464 |
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งานมหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในงานจัดแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่มากงานหนึ่งของประเทศไทย สำหรับซูซูกิก็ให้ความสำคัญในการเข้าร่วมงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยทุกครั้งจะมุ่งมั่นนำเสนอความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมกลุ่มรถยนต์นั่งทุกเซกเมนต์ในตลาด อีกทั้งภายในงาน ซูซูกิยังนำเสนอแคมเปญพิเศษ “SUZUKI SUPER FLASH DEAL” ที่สร้างโอกาสให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิ ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค แม้ในตลาดจะมีการแข่งขันที่สูงมาก แต่ด้วยแนวทางการทำตลาดของซูซูกิ ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคทั้งเรื่องงานขายและงานบริการ รวมไปจนถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด สามารถสร้างอัตราเติบโตให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแนะนำ “NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID-The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังก์ชัน เต็มพลังสมาร์ทไฮบริด” ออกมาในช่วงปลายปีนี้ มีส่วนช่วยสำคัญในการสร้างยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งซูซูกิยังคงคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและมีคุ้มค่า รวมไปถึงซูซูกิมีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการพัฒนาในการยกระดับงานด้านบริการหลังการขายด้วยกลยุทธ์ในการดูแล และเข้าถึงลูกค้าด้วยความจริงใจและใส่ใจที่จะมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ภายใต้แนวคิด “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ”