กระแสของ C-HR นั้นดีมากๆ ด้วยเรื่องของรูปลักษณ์ที่มีควาทันสมัย รวมกับขนาดของรถที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จนทำให้หลายคนจับตามองรถรุ่นนี้เป็นพิเศษ ผู้เขียนจะพูดถึงสเปคทั้งหมดของ C-HR รวมถึงประสบการณ์ในการขับขี
ไฟหน้า – เป็นไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ฟูล LED ไฟเลี้ยวเป็นแบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า
กระจกหน้า – เป็นกระจกกันเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร
เครื่องยนต์ – คือ 1.8 เบนซิน และ 1.8 hybrid อัตราการกินน้ำมัน hybrid อยู่ที่ 24 กม./ลิตร ส่วนเบนซินอยู่ที่ 16 กม./ลิตร
Hybrid – เป็น hybrid เจนเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งเป็น hybrid ตัวล่าสุดของ Toyota เลย จะมีความทนทานของมอเตอร์มากขึ้น และแบตของ hybrid มีขนาดที่เล็กลง
ล้อ – เป็นล้ออัลลอย 17 นิ้ว
C-HR เป็นรถที่อยู่ใน segment ของ compact SUV ซึ่งหมายถึงรถ SUV ที่ดูเหมือนมี 2 ประตูนั่นเอง ที่เปิดประตูด้านหลังจะเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในดีไซน์ของตัวรถ
C-HR มาพร้อมกับตัวโครงสร้างรถแบบใหม่คือโครงสร้าง TGA (Toyota New Global Architecture) ซึ่งทำให้คตัวรถมีความแข็งแรงมากขึ้น มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง ทำให้เวลาขับขี่จะมีความมั่นใจ รู้สึกว่ารถยึดเกาะถนน วึ่งทำให้รถสามารถทรงตัวได้ดีขึ้น รวมถึงยึดเกาะถนนดีขึ้นด้วย
รถรุ่นนี้มีพร้อมกับระบบกุญแจ immobilize และระบบการเข้าตัวรถแบบ smart entry
รถรุ่นนี้มาพร้อมกับจอสัมผัส 7 นิ้ว ซึ่งมีทั้งวิทยุ AM FM CD MP3 และ DVD รวมถึงระบบการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth อีกระบบนึงที่พิเศษสำหรับรถ C-HR คือมาพร้อมกับ T Connect Telematics ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับมือถือของเราผ่านแอพลิเคชั่น สามารถทำให้เราหารถของเราได้โดยผ่านฟังกั่น find my car และมีระบบนำทางแบบ navigation รวมถึงมี wi-fi อยู่ในตัว
จุดเชื่อมต่อต่างๆก็มีมาครบ ไม่ว่าจะเป็น USB HDMI CD-Card โดยทุกอย่างสามารถควบคุมผ่านแผงควบคุมบนพวงมาลัยได้
ไฟท้าย – เป็นไฟท้ายแบบ LED รวมถึงที่สปอยเลอร์จะมีไฟเบรกดวงที่ 3 <a href=”https://vrscr888.com”>scr888</a> บนหลังคาจะเป็นเสาอากาศแบบ shark fin