MT-07 เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 เป็นรถบิ๊กไบค์ในตระกูล MT-Series โดยเข้ามาทำตลาดต่อจาก รุ่นพี่อย่าง MT-09 ถือว่า เป็นรถบิ๊กไบค์ ที่คนไทยให้ความสนใจมากคันหนึ่งตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว และเป็นโอกาสดีจริงๆ ที่ผมได้ลองขับขี่ MT-07 สุดเท่ คันนี้
[taq_review]
ทางยามาฮ่า ก็ได้นัดเจอสื่อมวลชนที่ ศูนย์ฝึกขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า หรือ YRA บริเวณถนน บางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 21 เพื่อทดลองขับ บิ๊กไบค์ สองสูบ ตัวใหม่ อย่าง MT-07
ก่อนจะไปถึงเรื่องการขับขี่ มาว่ากันด้วยเรื่องของรูปร่างหน้าตา ของ MT-07 กันก่อน ตัวรถ มองโดยรวม อาจจะไม่ได้เป็น Naked Bike ที่ดูดุดันมากนัก แต่ให้ความรู้สึกแนว Sport Naked มากกว่า ยิ่งเป็นคันสีเหลืองที่ผมได้ลองทดสอบ บอกได้เลยว่า เป็นสีที่สะดุดตาที่สุด การออกแบบมีการให้พื้นที่ของเครื่องยนต์ ที่มีขนาดใหญ่
ไฟหน้า 7 เหลี่ยม แบบมีไฟหรี่ในตัว ไฟเลี้ยวสองข้างอยู่เหนือโคมไฟหน้า บนสุดเป็นมาตรวัดแบบดิจิตอล แสดงระดับเชื่อเพลิงที่อยู่ในถัง แสดงฟังก์ชั่นอัตราสิ้นเปลือง บอกตำแหน่งเกียร์เป็นตัวเลข และความเร็วขณะขับขี่
ถังน้ำมันขนาด 14 ลิตร พร้อม ที่เปิดฝาถังน้ำมัน ตรงกลางมีแถบกันกระแทก และกันรอยตัวถัง ด้านข้าง มีสติ๊กเกอร์ บอกรุ่น MT-07 ด้านเบาะรองนั่ง เป็นแบบแยกส่วน สองชิ้นสีดำล้วน
มาว่ากันที่ข้อมูลของ Naked Bike คันนี้ครับ สำหรับยามาฮ่า MT-07 เป็นรถบิ๊กไบค์ขนาดกลาง วางเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ขนาด 689 ซีซี 4 จังหวะ แบบครอสเพลน ที่ให้แรงบิดมาไวกว่าเครื่องยนต์สองสูบแบบปกติ ช่วยในเรื่องของการเข้าโค้งได้มีประสิทธิภาพ ออกจากโค้งได้มั่นใจ
เครื่องยนต์ตัวนี้ พกแรงม้ามาถึง 75 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 68 นิวตันแมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วย เกียร์ 6 สปีด ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ
โช๊คอัพด้านหน้า เป็นแบบเทเลสโคปิค ขนาด 41 มิลลิเมตร ล้อแม๊กอลูมิเนียม 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 120/70-ZR17 ทูปเลส ระบบเบรคหน้า ABS จานคู่ขนาด 282 มิลลิเมตร พร้อมดิสก์เบรกไฮดรอลิค
ล้อหลัง ใช้ยาง 180/55 ขนาดใหญ่ เพื่อความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจยามที่ใช้ความเร็วสูง ทำงานร่วมกับโช๊คอัพเดี่ยววางตัวแนวนอน พร้อมสวิงอาร์มอลูมิเนียมแบบสั้น และจานดิสก์เบรคหลังขนาด 245 มิลลิเมตร
ในการทดสอบครั้งนี้ ยามาฮ่า จัดรถให้ทางสื่อมวลชนทดสอบสองคัน คือ สีดำ และสีเหลือง กำหนดพื้นที่ให้เราได้ลองทดสอบกันแบบจำกัด ไม่เน้นความเร็ว หรือทางตรงยาวๆ แต่เน้นทดสอบไปในเรื่องของความคล่องตัว และการสัมผัสถึงเรี่ยวแรงของตัวรถในการขับขี่ มีสเตชั่นเล็กๆ สองด่านให้ได้ลอง การบังคับเลี้ยว หรือเข้าโค้งในที่แคบ และการขับขี่แบบซิ๊กแซก หรือแบบสลาลอม ก็ต้องบอกเลยว่า มันทำได้ไม่เลวเลยทีเดียวครับ
เป็นรถที่มีเสียงค่อนข้างจะไพเราะ ใครได้ยินก็รู้สึกว่าความเร้าใจลดลงไปบ้าง แต่ต้องขอบอกว่า นั่นเฉพาะตอนติดเครื่องอยู่เฉยๆ จอดนิ่งๆ เท่านั้น เพราะเมื่อเดินคันเร่ง เครื่อง 2 สูบ 689 ซีซี ก็พร้อมฉุดกระชากทั้งคนและรถที่น้ำหนักรวมเกินกว่า 200 กิโลกรัมออกไปแบบลอยๆ
สัมผัสแรกเมื่อสตาร์ทรถ แว้บแรกที่คิดขึ้นมาในหัวคือ เสียงเครื่องยนต์ของ MT-07 คันนี้นั้น ดูสุภาพอ่อนโยนเสียเหลือเกิน
เป็นรถที่มีเสียงค่อนข้างจะไพเราะ ใครได้ยินก็รู้สึกว่าความเร้าใจลดลงไปบ้าง แต่ต้องขอบอกว่า นั่นเฉพาะตอนติดเครื่องอยู่เฉยๆ จอดนิ่งๆ เท่านั้น เพราะเมื่อเดินคันเร่ง เครื่อง 2 สูบ 689 ซีซี ก็พร้อมฉุดกระชากทั้งคนและรถที่น้ำหนักรวมเกินกว่า 200 กิโลกรัมออกไปแบบลอยๆ
ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 182 กิโลกรัม มันก็จัดว่า เป็นรถที่ควบคุมง่ายคันหนึ่งเลยทีเดียว ขนาดตัวกระทัดรัด แต่ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง มีพอสมควร ผมสูง 174 เซนติเมตร เมื่อลองขึ้นคร่อม วางเท้าขาคู่ได้ไม่เต็มพื้นเท่าไหร่
เมื่อออกตัว สิ่งแรกเลย ต้องบอกว่าเป็นรถที่ออกตัวง่าย นิ่มนวล ไปได้แบบสมูธ ส่วนคันเร่งนั้นก็ทำงานสัมพันธ์กับเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม เปิดคันเร่งเพียงนิดเพื่อกระชากออกตัวเครื่องยนต์ตอบสนองดีและแม่นยำซึ่งเป็นสิ่งที่ผมประทับใจมาก การนั่งขับขี่ ก็ทำให้อยากจะลองขี่มันไปในระยะทางไกลๆ เรียกว่าอยากลองใช้เวลาอยู่กับมันยาวๆ เพื่อเรียนรู้กันและกัน (ว่าไปนั่น ฮาๆๆๆ)
ในสเตชั่นทดสอบความคล่องตัว ในจุดพื้นที่จำกัด เดินคันเร่งให้ผ่านในแต่ละจุดเลี้ยว ส่วนตัวผม ด้วยแรงบิดที่มาเร็ว ใช้เกียร์สองเข้าโค้งแคบๆ ทุกครั้งที่บิดคันเร่ง เครื่องยนต์ก็ดึงตัวรถให้ผ่านอุปสรรคได้ทันทีทันใด แม้ว่า ผมจะผ่อนคันเร่งจนรถอยู่ในรอบต่ำก็ตาม การเปลี่ยนเกียร์ ก็ทำได้ง่ายดายไม่ติดขัด
ในสเตชั่น สลาลอม ควบคุมรถตามทางซิ๊กแซก ด้วยน้ำหนักที่ไม่มากนัก บวกกับแรงบิดที่ดี ถือว่าไม่ยากเย็นสำหรับการควบคุมครับ
แม้เวลาและสนามในการทดสอบมีค่อนข้างจำกัด แต่สำหรับการทำความรู้จักกับ Yamaha MT-07 ครั้งแรก ต้องยอมรับว่า ผมประทับใจในตัวรถคันนี้ไม่น้อย
การบอกเล่าเรื่องราวของ MT-07 Sport Naked Bike สุดเท่ จาก ยามาฮ่า ในครั้งนี้ อาจจะยังไม่จุใจ เท่าที่ควร แต่ไม่ต้องกลัว เพราะผมเอง ได้เก็บภาพตัวรถมาฝากกันเพิ่มเติม อีกเล็กน้อย ให้ทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านใน driveautoblog.com ผมเองก็ยังหวัง ว่าอาจจะได้ ขี่ MT-07 เต็มๆ อีกสักที
สรุปภาพรวม ของการทดสอบ Yamaha MT-07 ถึงแม้ว่าจะเป็นการทดสอบสั้นๆ ไม่มากนัก แต่ก็ต้องบอกว่า ตัวรถสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย ทั้งเรื่องของรูปร่างหน้าตา อาจจะไม่ได้มาแนวแบบตัวแรงขาโหด แต่ก็ต้องยอมรับว่า มาดนี้ของ MT-07 ก็เท่สุดๆ ดูลงตัวสวยงาม
ในเรื่องการขับขี่ ก็พอจะสรุปได้ว่า รถมีความกระทัดรัดและควบคุมง่ายผสมกัน ทำให้มีความคล่องตัวในการขับขี่ พละกำลังของเครื่องยนต์ที่ให้มาเหลือเฟือกับการใช้งานในสภาพการจราจรเมืองไทยทั้งในเมืองและเดินทางต่างจังหวัด เข้า-ออกโค้งทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวมากนัก
และนี่คือภาพรวมของ Naked Bike Yamaha MT-07 กับการสัมผัสครั้งแรกของผม และที่สำคัญ ราคาก็ดูจะสมเหตุสมผล สมใจแฟนบิ๊กไบค์ยามาฮ่าที่เฝ้ารอ
ช่องเสียบกุญแจ เหนือโคมไฟหน้า
กระจกมองข้างขนาดใหญ่
ไฟท้ายแบบ LED
ท่อไอเสียแบบสั้น
เกียร์โยง 6 จังหวะ
ด้านท้ายตัวรถแนวสปอร์ต
ระบบอัดอากาศเข้าสู้หม้อกรอง เอกลักษณ์ของ รถตระกูล MT
โช๊คอัพเดี่ยว แนวนอน
มาตรวัดแบบดิจิตอล
สีเหลือง (Reddish Yellow)
สีดำ (Matt Gray Metallic)
สีเทา (Matt Silver)
