วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
ข่าว

กู๊ดเยียร์ ประเทศไทย เปิดตัว “อีเกิ้ลเอฟวัน แอสซิมเมทริค 3” ยางรถสปอร์ตระดับพรีเมียม มั่นใจด้วยระยะเบรกสั้นกว่า 2.6 เมตร

กู๊ดเยียร์ เปิดตัวยาง “อีเกิ้ลเอฟวัน แอสซิมเมทริค 3” คุณภาพระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ซึ่งยางสำหรับรถสปอร์ตระดับหรูนี้ มาพร้อมประสิทธิภาพที่โดดเด่นด้านการลดระยะเบรกลงได้ทั้งบนถนนที่แห้งและเปียก รวมถึงเสริมการยึดเกาะถนน เพิ่มสมรรถนะในการควบคุมและการตอบสนอง เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดการเดินทาง ด้วยคุณสมบัติของยางรุ่นอีเกิ้ลเอฟวัน ที่ผ่านการทดสอบและการรับรองจากผู้ผลิตรถยนต์ รวมทั้งจากัวร์ เอ็กซ์เอฟ ซึ่งให้สมรรถนะการเบรกที่ยอดเยี่ยม รวมถึงเสถียรภาพในการบังคับและควบคุมรถในทุกสภาพถนน

ในขณะที่ตลาดรถสปอร์ตระดับพรีเมียมเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด3 คาดว่าอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีจะเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 6 จากปี 2557 ถึง 2563 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยได้รับแรงผลักดันจากการเติบโตที่คาดการณ์ในประเทศจีน (ร้อยละ 5.9%) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 5.7) และประเทศในกลุ่มอาเซียน (ร้อยละ 9)4

ทั้งนี้ “ยางอีเกิ้ลเอฟวัน แอสซิมเมทริค 3” อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย5 Grip Booster Technology (เทคโนโลยีเสริมการยึดเกาะถนน) ประกอบด้วยยางเรซินเสริมความหนา ช่วยในการยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น Active Braking Technology (เทคโนโลยีเพิ่มสมรรถนะในการเบรก) ลดระยะการเบรกเพราะยางออกแบบให้สามารถขยายตัวเมื่อสัมผัสกับพื้นถนน ทำให้เกิดการยึดเกาะมากขึ้น ทำให้ได้ระยะเบรกที่สั้นลง Reinforced Construction Technology (เทคโนโลยีเพิ่มสมรรถนะในการควบคุมทิศทาง) ทำให้โครงสร้างของยางมีน้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่งทนทานมากยิ่งขึ้น และเสริมสมรรถนะในการควบคุมและบังคับรถ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะ เสริมสมรรถนะในการเลี้ยว ต้านทานการสึกหรอของยาง และช่วยประหยัดน้ำมัน

โดยยางอีเกิ้ลเอฟวัน แอสซิมเมทริค 3 ได้รับการทดสอบและยืนยันจากสถาบัน DEKRA6 ว่าเป็นยางที่มีสมรรถนะดีเยี่ยมและทนทานต่อการสึกหรอของยาง เมื่อเปรียบเทียบกับยางในระดับเดียวกันของแบรนด์คู่แข่งชั้นนำอื่น ๆ ในตลาด ผลการทดสอบพบว่ายางอีเกิ้ลเอฟวัน แอสซิมเมทริค 3 ของกู๊ดเยียร์ สามารถวิ่งในระยะทางเพิ่มขึ้นถึง 11,500 กม. เทียบกับ 3 แบรนด์คู่แข่ง

นอกจากนี้ การทดสอบ TÜV SÜD Benchmark Test7 ของกู๊ดเยียร์ ได้แสดงให้เห็นว่า ยางอีเกิ้ลเอฟวัน แอสซิมเมทริค 3 เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของ 3 แบรนด์คู่แข่งชั้นนำ มีระยะเบรกที่สั้นกว่า 2.6 เมตร (สมรรถนะสูงขึ้นถึงร้อยละ 9) บนถนนเปียก และระยะเบรกที่สั้นกว่า 1.3 เมตร (สมรรถนะสูงขึ้นถึงร้อยละ 4) บนถนนแห้ง ส่วนการควบคุมและบังคับรถดีขึ้นถึงร้อยละ 4 จากผลการทดสอบนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าอัตราแรงต้านทานการหมุนของล้อดีขึ้นถึงร้อยละ 10.9 ส่งผลให้แรงต้านทานการหมุนของล้อนั้นดีเยี่ยมเป็นอันดับสองของยางจากแบรนด์ที่ได้รับการทดสอบทั้งหมด8

HiRes

มร. ฟินบาร์ โอคอนเนอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบัน กู๊ดเยียร์เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ด้วยความมุ่งมั่นผลิตและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีสมรรถนะสูงให้กับกลุ่มผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยยางอีเกิ้ลเอฟวัน แอสซิมเมทริค 3 ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการต่าง ๆ ของผู้บริโภค
ในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีด้านการยึดเกาะถนนและการพัฒนาประสิทธิภาพการเบรกที่ดียิ่งขึ้นนี้เอง จึงสามารถถ่ายทอดเจตนารมณ์ของแบรนด์กู๊ดเยียร์ ในการสร้างความปลอดภัยและอบอุ่นใจ ไปตลอดเส้นทางบนถนนได้อย่าง
ดีเยี่ยม”

ยางอีเกิ้ลเอฟวัน แอสซิมเมทริค 3 มีด้วยกันถึง 32 ขนาด ตั้งแต่ขนาดความกว้างระหว่าง 17 – 20 นิ้ว

ขนาดของยางที่มีจำหน่ายในประเทศไทย มีดังนี้

215/45R17 91Y EAG F1 ASY 3 XL FP

225/45R17 94Y EAG F1 ASY 3 XL FP

235/45R17 97Y EAG F1 ASY 3 XL FP

245/40R17 95Y EAG F1 ASY 3 XL FP

245/45R17 95Y EAG F1 (ASYMM) 3 FP

225/40R18 92Y EAG F1 ASY 3 XL FP

225/45R18 95Y EAG F1 ASY 3 XL FP

235/40R18 95Y EAG F1 ASY 3 XL FP

235/45R18 98Y EAG F1 ASY 3 XL FP

235/50R18 101Y EAG F1 ASY 3 XL FP

245/35R18 92Y EAG F1 ASY 3 XL FP

245/40R18 97Y EAG F1 ASY 3 XL FP

245/45R18 100Y EAG F1 ASY 3 XL FP

255/35R18 94Y EAG F1 ASY 3 XL FP

255/45R18 103Y EAG F1 ASY 3 XL FP

265/35R18 97Y EAG F1 ASY 3 XL FP

275/35R18 99Y EAG F1 ASY 3 XL FP

225/35R19 88Y EAG F1 ASY 3 XL FP

235/35R19 91Y EAG F1 ASY 3 XL FP

245/35R19 93Y EAG F1 ASY 3 XL FP

245/45R19 102Y EAG F1 ASY 3 XL FP

255/30R19 91Y EAG F1 ASY 3 XL FP

255/35R19 96Y EAG F1 ASY 3 XL FP

285/30R19 98Y EAG F1 ASY 3 XL FP

255/35R20 97Y EAG F1 ASY 3 J XL JA

255/30R20 92Y EAG F1 ASY 3 XL FP

245/45R18 100Y EAG F1 ASY 3 *MOE XLROFFP

275/40R18 99Y EAG F1 ASY 3 *MOE ROF FP

245/40R19 98Y EAG F1 ASY 3 *MOE XL ROFFP

275/35R19 100Y EAG F1 ASY 3 *MOE XLROFFP

245/35R20 95Y EAG F1 ASY 3 *MOE XL ROF

275/30R20 97Y EAG F1 ASY 3 *MOE XL ROFFP

Tire Shot
225/45 R17
Low Resolution

[1] ลดระยะเบรกลงได้ 2.6 เมตร (สมรรถนะสูงขึ้นถึงร้อยละ 9) บนถนนเปียก และลดระยะเบรกลงได้ 1.3 เมตร (สมรรถนะสูงขึ้นถึงร้อยละ 4) บนถนนแห้ง เทียบกับสมรรถนะเฉลี่ยของ 3 แบรนด์คู่แข่ง (ที่ใช้ในการทดสอบ) ในกลุ่มยางสมรรถนะสูง ทดสอบโดยสถาบัน TÜV SÜD Product Service GmbH เมื่อเดือนกันยายน – ตุลาคม 2558 โดยทดสอบสมรรถนะเทียบกับ 3 แบรนด์คู่แข่งชั้นนำ โดยใช้ยางสมรรถนะสูง ขนาดยาง: 225/45 R17 91Y รถที่ทดสอบ: VW GOLF สถานที่ทดสอบ: Mireval (F), Papenburg (D), TÜV SÜD PS Garching (D) รายงานเลขที่ 713066268

[2] เปรียบเทียบกับสมรรถนะเฉลี่ยของ 3 แบรนด์คู่แข่ง (ที่ใช้ในการทดสอบ) ในกลุ่มยางสมรรถนะสูง ทดสอบโดยสถาบัน DEXRA ระหว่างเดือนกันยายน – ตุลาคม 2558 ใช้ขนาดยาง: 225/45 R17 91Y รถที่ทดสอบ: VW GOLF VII – 150 CV สถานที่ทดสอบ: บนถนนจริงและสนามทดสอบ FP01 ภายใต้สภาพทั่วไปของการทดสอบ ตามที่ระบุไว้ในการทดสอบ #2015-137

[3] ที่มา: กู๊ดเยียร์ อินเทอร์นอล ฟอร์คาส

[4] ที่มา: IHS GI ประมาณยอดขายรถยนต์ปี 2559 – 2563 เมื่อเดือนธันวาคม 2558

[5] เปรียบเทียบกับยางรุ่นก่อนหน้านี้

[6] เปรียบเทียบกับสมรรถนะเฉลี่ยของ 3 แบรนด์คู่แข่ง (ที่ใช้ในการทดสอบ) ในกลุ่มยางสมรรถนะสูง ทดสอบโดยสถาบัน DEXRA ระหว่างเดือนกันยายน – ตุลาคม 2558 ใช้ขนาดยาง: 225/45 R17 91Y รถที่ทดสอบ: VW GOLF VII – 150 CV สถานที่ทดสอบ: บนถนนจริงและสนามทดสอบ FP01 ภายใต้สภาพทั่วไปของการทดสอบ ตามที่ระบุไว้ในการทดสอบ #2015-137

[7] ทดสอบโดยสถาบัน TÜV SÜD Product Service GmbH เมื่อเดือนกันยายน – ตุลาคม 2558 โดยทดสอบเพื่อเปรียบเทียบกับ 3 แบรนด์คู่แข่งชั้นนำ ใช้ยางสมรรถนะสูง ขนาดยาง: 225/45 R17 91Y รถที่ทดสอบ: VW GOLF สถานที่ทดสอบ: Mireval (F), Papenburg (D), TÜV SÜD PS Garching (D) รายงานเลขที่ 713066268

[8] คะแนนด้านอัตราแรงต้านทานการหมุนของล้อ: ยางกู๊ดเยียร์อีเกิ้ลเอฟวัน แอสซิมเมทริค 3 – 100 ค่าเฉลี่ยของแบรนด์คู่แข่งชั้นนำ – 89.1 บางส่วนของการทดสอบที่ระบุไว้ตอนต้นด้วย TÜV SÜD PS Garching (D) รายงานเลขที่713066268

Tire shot
225/45 R17
Low Resolution
Anuwat
the authorAnuwat
Producer รายการ DRIVE และผู้สื่อข่าวสายรถจักรยานยนต์ เว็บไซต์ driveautoblog.com

ใส่ความเห็น