บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค (TMAP) เปิดตัวการแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ ครั้งที่ 3 โดยทีมที่มาเข้าร่วมแข่งขันล้วนเป็นทีมแชมป์ฟุตบอลลีกหรือฟุตบอลถ้วยในระดับประเทศจากประเทศ ลาว พม่า เวียดนาม กัมพูชา และประเทศไทย เพื่อชิงแชมป์การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ ประจำปี 2559 เงินรางวัลในการแข่งขันรวมทั้งหมด 173,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับรางวัลของทีมแชมป์การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า แม่โขงคลับ แชมเปี้ยนชิพจะได้รับเงินรางวัลจำนวน 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ
การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 ถึงวันที่ 8 มกราคม 2560 โดยในปีนี้ทีมจากประเทศลาว พม่า และเวียดนามจะต้องทำการแข่งขันในรอบแรกแบบพบกันหมดเพื่อหาทีมที่ได้คะแนนเก็บสูงสุดเข้าไปแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ พบกับทีมจากประเทศกัมพูชาที่ได้รับสิทธิ์ผ่านเข้าไปรอในรอบรองชนะเลิศ เนื่องจากทีมจากกัมพูชาได้ตำแหน่งรองชนะเลิศการแข่งขันในปีที่แล้ว เช่นเดียวกับทีมจากประเทศไทยที่ได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปรอในรอบชิงชนะเลิศโดยอัตโนมัติเนื่องจากทีมจากประเทศไทยได้ตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ ประจำปี 2558 ที่ผ่านมา ทั้งนี้การแข่งขันนัดแรกจะเริ่มทำการแข่งขันที่ประเทศลาวในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2559
จากเสียงตอบรับจากแฟนบอลในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การแข่งขันในปีนี้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้มข้นขึ้น โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะทำการแข่งขัน 2 นัด ในรูปแบบเหย้า – เยือน ซึ่งทีมที่ชนะการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศจะต้องแข่งกับทีมจากประเทศไทยที่สนามเหย้าของตัวเองในวันที่ 4 มกราคม 2560 และจะทำการแข่งขันนัดสุดท้ายที่ประเทศไทยในวันที่ 8 มกราคม 256
นอกจากนี้ การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า แม่โขงคลับ ชมเปี้ยนชิพ ประจำปี 2559 ทุกนัดจะถ่ายทอดสดผ่านเครือข่ายโทรทัศน์ท้องถิ่นของแต่ละประเทศ ด้วยการสนับสนุนจากบรรดาผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ และที่สำคัญการแข่งขันรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะทำการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเข้าถึงการจัดการแข่งขันราบการนี้มากขึ้น
ทั้งนี้ ทีมที่เข้าแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ ประจำปี 2559 ทั้ง 5 ทีม ได้แก่ ทีมบึงเกต อังกอร์ เอฟซี จากประเทศกัมพูชา ทีมล้านช้างยูไนเต็ด เอฟซี จากประเทศลาว ทีมยาดานาบอน เอฟซี ประเทศพม่า ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จากประเทศไทย และทีมเอสเอชบี ดานัง เอฟซี จากประเทศเวียดนาม
มร. เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมาผู้ชมการแข่งขันมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ผมหวังจะเห็นการพัฒนากีฬาฟุตบอลในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง และผมหวังว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์กับประเทศเขตลุ่มแม่น้ำโขงต่อไปอย่างยาวนาน”
มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความคิดริเริ่มในการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความทุ่มเทและตั้งใจจริงของเราที่จะสานต่อและเสริมรากฐานที่มั่นคงให้กับความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่าง โตโยต้า กับพันธมิตรในระดับชุมชนท้องถิ่นอันจะมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
วัตถุประสงค์ของการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค ริเริ่มจัดการแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า แม่โขงคลับ แชมเปี้ยนชิพ เพื่อให้เป็นรายการแข่งขันฟุตบอลของทีมที่ครองตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลลีกในระดับประเทศจากกลุ่มประเทศในเขตลุ่มแม่น้ำโขง ในปี พ.ศ. 2557 ภายใต้ชื่อ “ฟุตบอลโตโยต้าลุ่มแม่น้ำโขง” (Toyota Mekong Football Project) ด้วยแนวคิดที่ต้องการเชื่อมโยงพลังแห่งความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลเข้ากับความตั้งใจจริงของโตโยต้าในการนำเสนอรถยนต์ “ที่ดียิ่งกว่า” (ever better cars) ให้กับลูกค้า เพื่อนำนวัตกรรมแห่งความยั่งยืน และความตื่นเต้นให้กับทุกประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้น โตโยต้า มีความตั้งใจที่จะเป็นมากกว่าบริษัทรถยนต์ โดยการร่วมเป็น “พันธมิตรที่ดีที่สุด” (best partner) ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคมของชุมชนท้องถิ่นในประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนามและประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลซึ่งถือได้ว่าเป็นกีฬายอดนิยมในระดับโลก
ในเอเชีย โตโยต้า ได้ดำเนินโครงการที่ช่วยส่งเสริมชุมชนท้องถิ่นมากกว่า 200 โครงการ ครอบคลุมทั้งในด้านศิลปะวัฒนธรรม การดูแลสุขภาพ การพัฒนาชุมชน การศึกษา การดูแลสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยบนท้องถนน และการกีฬา ทั้งนี้ตัวอย่างของโครงการที่ โตโยต้า ได้ริเริ่มเพื่อประชาชนในภูมิภาคนี้ได้แก่ การจัดคอนเสิร์ตการกุศล โตโยต้า คลาสสิคส์ (Toyota Classics Concert) ซึ่งรายได้จากการจัดแสดงคอนเสิร์ตจะนำไปบริจาคเพื่อการกุศลในแต่ละประเทศ และโครงการรณรงค์ด้านความปลอดภัยระดับภูมิภาค (Regional Safety Campaign) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการคาดเข็มขัดนิรภัย