MG6 คอมแพคคาร์ จากแบรนด์น้องใหม่ในประเทศไทย โดดเด่นด้วยออพชันระบบความปลอดภัย และเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.8 ลิตร กำลัง 161 แรงม้า พร้อมงานออกแบบตัวรถ ด้วยเส้นสายเรียบง่าย ร่วมสมัย มองได้นาน
MG6 เป็นรถยนต์คอมแพค คาร์ที่เปิดตัวทำตลาดในบ้านเรารุ่นแรกของค่ายเอ็มจี จนกระทั่งปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์เมื่อปีที่ผ่านมา เพิ่มรุ่นย่อยเป็น 6 รุ่น พร้อมมีให้เลือกทั้งตัวถัง Sedan และ Fastback วางราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 898,000 – 1,108,000 บาท
รายละเอียดของ MG6 เริ่มต้นที่งานออกแบบดีไซน์ภายนอก ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าสปอร์ตดีไซน์ใหม่ เน้นเอกลักษณ์ของ MG ที่มาพร้อมลวดลายโครเมียม ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon HID พร้อมระบบปรับระดับไฟหน้า ไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน ลำแสงคมชัดมั่นใจในการขับขี่อย่างมาก และยังมีระบบฉีดล้างโคมไฟหน้าอีกด้วย ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน หรือ DRL เพิ่มความโดดเด่นและความปลอดภัยอีกขั้นยามรถวิ่งเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล
มิติตัวถังความยาวขนาด 4,653 กว้าง 1,827 และสูง 1,467 มิลลิเมตร เส้นสายออกแบบให้รับกันตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านท้าย พร้อมล้อแม็ก 5 ก้านคู่ ขนาด 17 นิ้ว ทูโทน ดำ-ปัดเงา สไตล์สปอร์ต ด้านท้ายในรุ่นซีดาน มีเส้นสายโค้งมนกลมกลืน มองได้นาน ตรงกลางด้านบนจะพบกับโลโก้ MG สะดุดตา ไฟท้ายเป็นแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวในโคมเดียวกัน ด้านล่างมาพร้อมท่อไอเสียปลายท่อสี่เหลี่ยม บนหลังคาติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลาม และกระจกซันรูฟ
ภายในห้องโดยสาร กว้างขวางและโปร่งสบายพอสมควร พร้อมแผงแดชบอร์ดขนาดใหญ่ ติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง แสดงภาพจากกล้องมองหลัง และเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ ลำโพง 8 จุด ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone แยกฝั่งซ้าย-ขวา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พาวเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบไฮดรอลิก ปรับระดับ 4 ทิศทาง พร้อม Paddle Shift ให้คุณสนุกกับการขับขี่ ได้ทุกช่วงความเร็ว และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control วงเลี้ยงแคบสุด 5.9 เมตร หน้าปัดแสดงผลจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อเข้าโหมดสปอร์ต (S)
ความน่าสนใจของ MG6 ยังอยู่ที่การใสใจในรายละเอียดต่างๆ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ที่ช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของ MG6 เพลิดเพลินไปกับการเดินทาง ดังจะเห็นได้จากภาพด้านบน พร้อมรายละเอียด
MG6 มาพร้อมระการเชื่อมต่อ inkaNet ใช้สื่อสารระหว่างรถยนต์เอ็มจีกับผู้ขับขี่ โดยเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ช่วยให้ผู้ขับขี่ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของตัวรถ ทั้งการจราจร เส้นทาง ระบบนำทางที่สามารถกำหนดเพิ่มเติมสถานที่ที่สนใจของผู้ขับขี่ได้ด้วยตัวเอง
เบาะหนังขนาดใหญ่ สีครีม ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง ทั้งฝั่งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารฝั่งซ้าย ด้านหลังหลังสามารถพับเป็น 60:40 ได้ นอกจากนี้ สีสันภายในห้องโดยสาร ลูกค้ายังสามารถเลือกสีเบาะหนังสีดำได้อีกด้วย
MG6 ยังมาพร้อมหลังคากระจก Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนที่บังแดดมีกระจกแต่งหน้าทั้งซ้ายและขวาพร้อมหลอดไฟ และกระจกมองหลังเป็นแบบตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบความปลอดภัยภายในห้องโดยสาร ประกอบไปด้วย ถุงลมนิรภัย และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง, สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง, กล้องมองหลัง, ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
สำหรับขุมกำลัง MG6 วางเครื่องยนต์รหัส 18K4G 4 สูบ 16 วาล์ว เบนซินเทอร์โบขนาด 1.8 ลิตร (1,796 ซีซี) อัตราส่วนกำลังอัด 9.2 : 1 ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตันเมตร มาตั้งแต่รอบต่ำเพียง 2,000-4,500 รอบต่อนาที เพราะมีเทอร์โบเช่นบูสต์ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบดูอัลคลัทช์ 6 สปีด
MG6 ใช้ช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง แบบอิสระ Z-Type มัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรกหน้า และหลัง แบบดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน และระบบทำความสะอาด
ระบบความปลอดภัย
ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย USD (Ultimate Stiffness Design)
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
ระบบเสริมแรงเบรก EBA (Electronic Brake Assist)
ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียรลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ITPMS (Indirect Tire Pressure Monitor System)
ระบบควบคุมแรงบิดของล้อขณะเข้าโค้ง DWTC (Dynamic Wheel Torque Control)
ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังการสตาร์ทเครื่องยนต์ (Steering Wheel Reminder)
MG6 Sedan มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ ขาว-ดำ, ขาว, เงิน, เทา, ดำ และแดง