บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศยอดขายในปี 2558 ของทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มียอดส่งมอบกว่า 10,000 คัน เป็น BMW และMINI จำนวน 8,768 คัน เพิ่มขึ้น 5% และBMW Motorrad 1,280 คัน เพิ่มขึ้น 83% รวมเป็นสถิติยอดส่งมอบของทั้งสามแบรนด์ที่ 10,048 คัน ในปี 2558 ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมเปิดตัว “X1 sDrive18d 2016”
นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ปี 2558 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ด้วยการสร้างสถิติใหม่เฉลิมฉลองความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจที่จะครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลก ในเดือนมีนาคม 2559 ที่จะถึงนี้ ด้วยยอดขายสูงสุดทั่วโลกมากกว่า 2.2 ล้านคัน รวมรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิและโรลส์-รอยซ์ ที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้าทั้งสิ้น 2,247,485 คัน นับเป็นยอดขายที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของกรุ๊ป ส่งผลให้มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 6.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป รักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมของโลกได้ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 11”
“ปี 2558 นับเป็นอีกปีแห่งประวัติศาสตร์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ด้วยยอดขายที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยมียอดขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 7,751 คัน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับ ปีก่อนหน้า และมินิที่มียอดจำหน่ายผ่านสี่หลักเป็นครั้งแรกด้วยจำนวน 1,017 คัน เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงความต้องการในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรุ่นต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้น 1,280 คัน เพิ่มขึ้นถึง 83% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ซึ่งคิดเป็น 4 เท่าของอัตราการเติบโตของตลาดบิ๊กไบค์โดยประมาณทั้งหมด”
“การเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยู ในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มี ต่อรถยนต์รุ่นต่างๆ ของบีเอ็มดับเบิลยูที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จของเราในครั้งนี้เป็นผลจากยนตรกรรมที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยบีเอ็มดับเบิลยูได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกติดต่อกันถึง 3 ครั้ง รวมครั้งล่าสุดในปี 2015 นี้ด้วย คุณค่าแห่งแบรนด์ดังกล่าวยังเป็นที่ประจักษ์แก่ลูกค้าชาวไทย ในด้านความดึงดูดใจที่มีความเฉพาะตัว เช่นเดียวกันกับความคุ้มค่าในการลงทุนทั้ง ด้านประสิทธิภาพของการประหยัดพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ตลอดระยะเวลาในการครอบครอง ด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics และ BMW Service Inclusive ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ของเรา และยังสร้างความมั่นใจในสมรรถนะด้านความประหยัดพลังงานสูงสุด พร้อมมอบความสะดวกสบายและสามารถไว้วางใจได้ในการรับประกันที่ได้ขยายขอบเขตเป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เพื่อเป็นของขวัญในโอกาสครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลกในปี 2559 นี้”
“และสำหรับมินิ ก็นับเป็นปีที่มีความสำเร็จอันโดดเด่น ด้วยการสร้างสถิติส่งมอบรถยนต์สูงสุด 1,017 คัน เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าชาวไทย โดยมีมินิ คันทรีแมน มินิแฮทช์ ทั้งในรุ่น 3 ประตูและ 5 ประตู เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อภาพรวมความสำเร็จของแบรนด์มินิ และใน ปี 2559 นี้ มินิขอมอบโปรแกรมการรับประกันที่ขยายขอบเขตการคุ้มครองสำหรับรถยนต์มินิตลอดระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางเช่นกัน นอกจากนี้ มินิ ประเทศไทย ยังได้จัดแคมเปญพิเศษที่จะนำคนรักมินิผู้โชคดีบินตรงสู่ลอนดอน เยี่ยมชม MINI Plant Oxford สถานที่เกิดของรถมินิทั่วโลก และเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้ชมการเปิดตัวรถมินิแห่งอนาคตสุดเอ็กซ์คลูสีฟอีกด้วย”
“อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในปี 2558 ที่ผ่านมา คือ การเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ซึ่งได้มีการฉลองครบรอบ 15 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ด้วยยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมียอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์ที่ 1,280 คัน เติบโตขึ้น 83% เทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็น 4 เท่าของอัตราการเติบโตของตลาดบิ๊กไบค์โดยประมาณทั้งหมด”
“ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในประเทศไทยนี้ เป็นผลจากยนตรกรรมที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงความแข็งแกร่งของการเป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม และชื่อเสียงระดับโลกของบริษัทในด้านความยั่งยืน” นายแมทธิอัส กล่าวสรุป
นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18d ใหม่ ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของบีเอ็มดับเบิลยู X1 มาพร้อมเครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ดีเซล 4 สูบ รุ่นใหม่ล่าสุด 1,995 ซีซี 150 แรงม้า ให้อัตราสิ้นเปลืองเชิ้อเพลิงเพียง 21.3 กิโลเมตร/ลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 125 กรัม/กิโลเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Steptronic Sport 8 สปีด”
ในด้านงาน ไฟแนนเชียล ดร.ปีเตอร์-โอลิเวอร์ วากเนอร์ ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 15 ปี ของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย นั้นนับว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ด้วยความมุ่งมั่นของพนักงานทุกคนและเครือข่ายผู้จำหน่ายอันแข็งแกร่ง ทำให้ เราสามารถมอบผลิตภัณฑ์และการบริการด้านการเงินที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าชาวไทยมาตลอด และในปี 2558 ธุรกิจของเราสร้างสถิติเติบโตถึง 12.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมี มูลค่าสินเชื่อในพอร์ตเติบโตขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 33.4 พันล้านบาท นับเป็นสถิติมูลค่าสินเชื่อในพอร์ต ที่สูงที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างลูกค้า เครือข่ายผู้จำหน่ายและบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย”
“เนื่องในโอกาสพิเศษเช่นนี้ เราได้เปิดตัวโครงการ แคร์ ฟอร์ วอเตอร์ (Care 4 Water) ในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลก ด้วยจุดมุ่งหมายของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ในการเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทย ประกอบกับสถานการณ์ภัยแล้งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ ทำให้เราเล็งเห็นถึงความยากลำบากในการเข้าถึงน้ำสะอาดสำหรับการอุปโภคและบริโภคในหลายพื้นที่ อันเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต เราจึงได้ร่วมมือกับ Waves For Water องค์กรที่ให้ความช่วยเหลือด้านโซลูชั่นในการจัดการให้น้ำสะอาดจากประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ ริเริ่มโครงการ แคร์ ฟอร์ วอเตอร์ เพื่อถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับระบบการกรองน้ำพร้อมมอบโซลูชั่นดังกล่าวให้แก่คนไทยในพื้นที่ขาดแคลน” ดร.วากเนอร์ กล่าวเสริม
“ภายในปี 2559 นี้ เราตั้งเป้าที่จะส่งมอบเครื่องกรองน้ำอย่างน้อย 2,000 เครื่อง เพื่อให้คนไทยกว่า 200,000 คนได้เข้าถึงน้ำสะอาด และจะเดินหน้าทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งมอบและติดตั้งเครื่องกรองน้ำให้ได้อย่างน้อยจำนวน 5,000 เครื่อง สำหรับคนไทยกว่า 500,000 คน ภายในปี 2561” ดร.วากเนอร์ กล่าวสรุป