MG แบรนด์น้องใหม่ในตลาดรถยนต์เมืองไทย ภายใต้ร่วมเงาของพันธมิตร SAIC จากประเทศจีน และเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ถือเป็นค่ายรถยนต์ที่มีการเติบโตที่รวดเร็วทั้งยอดจำหน่าย การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ และเครือข่ายศูนย์บริการ และการขยับตัวทำตลาดรถ SUV ด้วยการนำร่องกับโมเดล GS ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีขึ้นมาก จากความสำเร็จในการแนะนำรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 Turbo มาในวันนี้ driveautoblog จะพาทุกท่านไปลองขับรุ่นเครื่องยนต์ใหม่และเกียร์ลูกใหม่ใน MG GS 1.5 Turbo 7AT
[taq_review]
เชิญรับชมเทปการรีวิวในแบบไลฟ์สดผ่าน Facebook Live ระหว่างการทดลองขับจริง
MG GS 1.5 Turbo Test DriveLive! ลองขับ MG GS 1.5 Turbo X Sunroof Phrommin Ngamjansri
โพสต์โดย driveautoblog บน 28 กุมภาพันธ์ 2017
มันแน่นอนครับวันนี้! ทดสอบ MG GS 1.5 Turbo 2WD กำลังสูงสุด 167 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่รอบต่ำ เกียร์คลัตช์ค…
โพสต์โดย driveautoblog บน 27 กุมภาพันธ์ 2017
ความสะดวกสบายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง และระบบสื่อสารอัจฉริยะ Inkanet พร้อมด้วย 13 เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ได้แก่ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CURVE BRAKE CONTROL) ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS) และระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR) ฯลฯ
MG GS ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ TGI-TECH ระบบหัวฉีดไดเรคอินเจคชั่น กำลังสูงสุด 167 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,700 – 4,400 รอบต่อนาที ผนวกกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ TST – 7 SPEED ที่ได้รับการปรับแต่งให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว มอบอัตราเร่งที่ทันใจในรอบเครื่องยนต์ต่ำเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด ทั้งยังประหยัดน้ำมัน
ครบครัน คุ้มค่า สำหรับ MG GS 1.5L Turbo โดยเฉพาะรุ่น X Sunroof และความรอบคอบของ MG ในเรื่องการจัดฟีเจอร์ให้มานั้นอยู่ในระดับดีและฉลาด อาทิ ซันรูฟ โคมโปรเจคเตอร์เลนส์ หรือ Paddle Shift ซึ่งลูกค้าไปติดตั้งเองได้ยาก แต่ฟีเจอร์บางอย่างที่อำนวยความสะดวกสบายอย่าง Auto Tail Gate ซึ่งหลายคนก็ถามหาและไม่มีใน GS แต่ลูกค้าสามารถไปหาติดตั้งเพิ่มได้ถ้าต้องการและ MG ก็เตรียมไว้ให้บริการในราคาไม่แพง
คุณภาพการขับขี่เป็นจุดเด่นของรถ การคอนโทรลรถที่ง่ายแม้อยู่ในโค้งด้วยความเร็วสูงแสดงถึงพื้นฐานวิศวกรรมที่ดี ซึ่งวัยรุ่นน่าจะชอบกับรถที่ช่วงล่างเฟิร์ม คล่องตัวยามวิ่งในเมือง ขับสนุกยามเดินทางไกล ในส่วนตัวเลขอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงระดับ 12-13 กม./ลิตร ของเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ เมื่อใช้ความเร็วระดับ 100-120 กม./ชม. กับผู้โดยสารและสัมภาระในรถ ถือว่ารับได้ แต่เกียร์ระบบคลัตช์คู่ลูกนี้ยังไม่สมูธอย่างที่คาดหวังว่าจะเจอในเกียร์ที่ซอยชิดมาให้ถึง 7 สปีด