แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค ลงแข่งขัน GP3 สนามที่ 9 ซึ่งเป็นสนามปิดฤดูกาล เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 27-29 พฤศจิกายน) ณ ยาสมารีน่า เซอร์กิต (Yas Marina circuit) แซนดี้เข้าเส้นชัยอันดับที่ 17 และ 16 ในเรสที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ปิดฤดูกาลครองอันดับที่ 17 บนตารางแชมปเปี้ยนชิพ
ท่ามกลางสภาวะอากาศที่ร้อนระอุของยาสมารีน่าเซอร์กิต ผู้จัดแข่ง GP3 เลือกผสมผสานยางที่เบิร์นได้ระดับกลางๆ นั่นหมายถึงว่า นักขับจะไม่ต้องเบิร์นยางมากนักในสัปดาห์นี้ แซนดี้กล่าวว่า “ผลควอลิฟายไม่ได้เป็นไปดังที่คาด ผมไม่สามารถเบิร์นล้อหน้าได้ดีเท่าที่ควร ในขณะที่ล้อหลังถูกเบิร์นหนักมากเกินกว่าที่จะทำเวลาได้ ทางทีมต้องมาค้นหาสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะตอนที่เราลองยางชุดแรก ผลทุกอย่างออกมาดี”
เรส 1 นักขับต้องขับทั้งหมด 18 แลป ในสนามยาสมารีน่าเซอร์กิต แซนดี้ออกสตาร์ทจากอันดับที่ 20 และเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 17 ในขณะที่ อันดับ 1 -2-3 เป็นของ มาร์วิน เคิร์ชฮอฟเฟอร์ (Marvin Kirchhofer) นักขับเยอรมัน เอมิล เปิร์นสตอร์ฟ (Emil Bernstorff) นักขับอังกฤษ และ จิมมี่ อิริคสัน (Jimmy Eriksson) นักขับสวีเดนตามลำดับ
แซนดี้ กล่าวว่า “ยางที่ถูกเลือกมาใหม่สำหรับสนามนี้โดย พิแรลลี่ ผมเบิร์นไปได้ไม่มากนัก เพราะตั้งใจที่จะเก็บยางไว้ทำเวลาในตอนท้าย เป็นที่น่าเสียดาย ตอนออกสตาร์ทผมทำได้ดี แต่ผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่แลป ก็ต้องรับมือกับพวงมาลัยที่เซ็ทอัพไว้ไม่พอดี”
เรส 2 การปรับแต่งรถจากวันก่อน ถูกหวังผลอย่างมาก ในการแข่งขันเรสสุดท้ายของฤดูกาลซึ่งแข่งกันทั้งสิ้น 14 แลป แซนดี้ทำได้ดีที่สุด อันดับที่ 16 ในขณะที่ อันดับ 1 -2-3 เป็นของ อเล็กซ์ พาโล (Alex Palou) นักขับสเปน แอนโตนิโอ้ ฟูโอโค่ (Antonio Fuoco) นักขับอิตาลี และ เอสเทอบาน โอค่อน (Esteban Ocon) นักขับฝรั่งเศส “เรสนี้เป็นการแข่งที่ดุเดือดมากจริงๆสำหรับผม หลังจากสตาร์ทผมหล่นไปหนึ่งอันดับ และไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก พยายามอย่างสุดความสามารถ ทว่าไม่สามารถขึ้นไปถึงท็อปเท็นได้ แม้ว่ารถจะอยู่ในสภาพที่พร้อม แต่ก็ยังมีบางจุดที่ยังไม่ลงตัวกับฤดูกาลนี้สักเท่าไร อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมมาเยอะมากสำหรับปีนี้ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่จะพัฒนาผมในอนาคต”
ปิดฤดูกาลคะแนนรวมของแซนดี้อยู่ในอันดับที่ 17 ในขณะที่ เอสเทอบาน โอค่อน คว้าแชมป์ประจำฤดูกาลไปครอง มันเป็นปีที่ยากที่สุดปีนึงของแซนดี้นักซิ่งไทย แต่ทุกอย่างไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ ยังคงมีความท้าทายอีกมากมายรออยู่ในปี 2016 ฝากแฟนๆคอยติดตามผลงานของแซนดี้ในปีหน้าว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แซนดี้จะพยายามให้มากขึ้นเพื่อจะได้มีโอกาสนำธงชาติไทยไปโบกสะบัดอีกครั้งหนึ่ง!