วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
World Movement

Jaguar เปิดตัว Jaguar E-PACE – Crossover น้องใหม่ของค่ายอย่างเป็นทางการ

Jaguar เปิดตัว Jaguar E-Pace ด้วยความระทึกใจด้วยการทำ barrel roll ซึ่งเป็นการทำลายสถิติ Guinness World Record ในการเป็น production car ที่ทำ barrel roll ได้ไกลที่สุดในโลก

โดย E-Pace ถูกขับโดยนักขับรถผาดโผนมืออาชีพ – Terry Grant ซึ่งทำให้ E-Pace กระโดดได้ไกลถึง 15.3 เมตร (50.1 foot) ขณะที่ทำการควงสว่าน 270 องศา ที่ ExCeL Exhibition Center ณ กรุงลอนดอน, ประเทศอังกฤษ

Jaguar E-Pace เป็น crossover น้องใหม่ล่าสุดของค่าย ซึ่งจัดให้อยู่รองจาก Jaguar F-Pace ทำให้ crossover น้องใหม่คันนี้เป็น crossover รุ่นเริ่มต้นของค่ายผู้ดีอังกฤษ

ดีไซน์ภายนอก, ด้านหน้าอันดุดันของ E-Pace ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตสุดหรูของค่าย Jaguar F-Type ที่ด้านข้างมีช่องระบายอากาศที่แก้มข้างด้านหน้า, รูปทรงที่ปราดเปรียวe, และล้อขนาดอัลลอยขนาด 21 นิ้ว (ออปชันเสริม) ส่วนด้านหลังมีไฟท้ายทรงเรียวยาว ตัดกับสีของตัวรถอย่างลงตัว และมีหลังคา panoramic glass roof มาให้ด้วย

ภายในอาจจะเล็กไปซักนิด แต่ก็อัดแน่นไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งหุ้มหนัง, พวงมาลัยหุ้มหนัง, ตัดขอบแผงควบคุมต่างๆ ด้วย Noble Chrome, ระบบ Touch Pro infotainment system ขนาด 10 นิ้ว พร้อมด้วยเทคโนโลยีสั่งงานด้วยเสียง จุดเด่นอื่นๆ ก็จะมี ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ 4 ช่อง, พอร์ต USB 5 พอร์ต, และพื้นที่บรรทุกสัมภาระขนาด 577 ลิตร

E-Pace ยังมีออปชันเสริมอีกมากมายให้ลูกค้าได้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแผงหน้าปัด Digital ขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว, ชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมียมจาก Meridian Audio, ระบบ heads-up display, และ 4G Wi-Fi hotspot ที่เชื่อมต่อพร้อมกันได้ถึง 8 อุปกรณ์

ขุมพลังของ Jaguar E-Pace มีให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล โดยในรุ่นเบนซินเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร ที่มีความแรงให้เลือก 2 แบบ คือ 249 แรงม้า (PS) แรงบิด 365 นิวตันเมตร และ 300 แรงม้า (PS) แรงบิด 400 นิวตันเมตร

เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร

เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร

ในรุ่นเริ่มต้นจะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 150 แรงม้า (PS) แรงบิด 380 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่นกลางจะมีพละกำลัง 180 แรงม้า (PS) แรงบิด 430 นิวตันเมตร และในรุ่นท๊อปสุดของเครื่องยนต์ดีเซล จะมีความแรงอยู่ที่ 240 แรงม้า (PS) แรงบิด 500 นิวตันเมตร

ระบบเกียร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าเลือกเครื่องยนต์แบบไหน ซึ่งมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด โดยที่ UK จะมีระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ในสหรัฐอเมริกาจะใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทุกรุ่น

Jaguar E-Pace ได้ถูกใส่ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาให้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Adaptive Speed Limiter, Lane Keep Assist, Traffic Sign Recognition, และ Emergency Braking System พร้อมด้วย Pedestrian Detection และ crossover คันนี้ยังมาพร้อมระบบใหม่อย่าง Forward Traffic Detection System ซึ่งจะช่วยเตือนผู้ขับขี่ถึงรถที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเราจากมุมอับสายตาที่ทางแยก

Jaguar E-Pace มีราคาเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ $38,600 หรือ 1,308,154 บาท และมีราคาเริ่มต้นในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ £28,500 หรือ 1,251,918 บาท

ใส่ความเห็น