Daimler บริษัทแม่ของ Mercedes ได้ประกาศว่าพวกเขาได้ทบทวนแก้ไขแผนโครงการณ์รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ โดยจะเร่งให้มีรถยนต์ไฟฟ้า 10 รุ่น ออกใช้จริงบนท้องถนนภายในปี 2022 จากเดิมที่วางแผนไว้ปี 2025
บริษัทวางแผนที่จะใช้เงินลงทุนถึง 1 หมื่นล้านยูโร เพื่อขยายรถยนต์ไฟฟ้าให้มีหลากหลายรุ่น เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า โดยจะมีให้เลือกใช้ถึง 10 รุ่น ภายในปี 2022 ซึ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า Mercedes ให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว แต่แน่นอนว่าเครื่องยนต์สันดาบภายในของพวกเขาจะได้รับการพัฒนา ให้มีความประหยัดน้ำมัน และคุ้มค่ามากขึ้น
ทางบริษัทอ้างว่า รถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาจะสามารถขับไปได้ไกลถึง 500 กิโลเมตอร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ด้วยแบตเตอรีที่ติดตั้งอยู่ระหว่างเพลาขับ ซึ่งเป็นแบบ lithium-ion batteries ที่ผลิจโดย Daimler เอง โดยจะมีสมรรถนะโดยรวมมากกว่า 70 กิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยสามารถเร่งจาก 0-62 ไมล์/ชม. (0-100 กม./ชม.) ได้ภายในเวลาต่ำกว่า 5 วินาที
Mercedes เลือกที่จะใช้ SUV เป็นโมเดลแรกในครอบครัวรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากรถ SUV ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาด บริษัทได้สร้างรถยนต์ Generation EQ Concept ออกมาได้ดูโฉบเฉี่ยว และในขณะเดียวกันก็ดูสะอาดตาอีกด้วย
การออกแบบหลักจะเอามาจาก ‘Generation EQ’ ซึ่งใช้กระจังหน้าสีดำ และฉายแสงสีขาวสัญลักษณ์ “ดาวสามแฉก” ออกมา และยังรวมเอาไฟทั้งหมดอยู่ในแผงเดียวกันอีกด้วย
Mercedes กล่าวว่าพวกเขากำลังพัฒนาสถาปัตยกรรมแบบแยกส่วนใหม่ ซึ่งจะเป็นแบบพิเศษที่ใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า EQ เท่านั้น โดย Generation EQ concept จะรุ่นแรกที่จะออกสู่ตลาดในปี 2019 ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Tesla Model X และ Audi e-Tron Quattro
ขณะที่รอเวอร์ชันขายจริงของ Generation EQ concept อยู่นั้น บริษัทได้คำนวนเอาไว้ว่าระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรีจะลดลง จากการริ่เริ่มมาตรฐาน European Combined Charging System standard (CCS). โดยตอนนี้รถไฟฟ้า crossover ของ Mercedes รองรับการชาร์จทั้งแบบไร้สาย, แบบดั้งเดิม, และแบบชาร์จเร็ว โดยในระยะยาวเมื่อ charging capacity 300kW ออกสู่ตลาด Mercedes ได้บอกว่าด้วยการชาร์จเพียง 5 นาที จะสามารถทำให้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร เลยทีเดียว