ต้องยอมรับว่ากระแสของ GAC AION ในช่วงสิ้นปีนี้มาแรงอย่างไม่หยุดยั้ง จะเห็นได้ว่าเริ่มมีรถ AION Y Plus วิ่งกันเยอะมากยิ่งขึ้นบนท้องถนน และยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง ทั้งในเรื่องของพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง สมรรถนะของตัวรถ รวมถึงออปชั่นและฟีเจอร์ต่างๆที่เพิ่มเข้ามาในรุ่น Y Plus 490 Premium
ล่าสุดในงาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมา GAC AION สามารถครองยอดขายอันดับ 2 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งยังมียอดจองถล่มทลายถึง 4,568 คัน โดยมีรถรุ่นหลักก็คือ AION Y Plus ถือเป็นความสำเร็จของ GAC AION ที่สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าชาวไทย
วันนี้เรา Driveautoblog จะมาเจาะเหตุผลจุดเด่น ที่ทำไม AION Y Plus ถึงขายดี?
ประการแรกคือ ดีไซน์ของตัวรถที่ดูโดดเด่น และแน่นอนว่าภายนอกของรถรุ่นนี้อาจจะมีทั้งคนชอบ และไม่ชอบคละกันไป แต่การออกแบบภายในห้องโดยสารถือว่าเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้เลย เนื่องด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารมีขนาดที่ใหญ่ เมื่อเทียบกับรถในsegmentเดียวกัน โดยเฉพาะเบาะหลัง (เบาะที่นั่งแถว 2) ซึ่งกว้างเป็นพิเศษ สามารถยืดขาได้ แน่นอนว่าใครที่เป็นสายแคมป์ปิ้ง หรือใช้เบาะที่นั่งแถว 2 บ่อยๆ จะต้องตกหลุมรักแน่นอน
อีกหนึ่งความพิเศษของ AION Y Plus คือสามารถปรับพับเบาะข้างหน้าเอนลงได้ถึง 180 องศา เปลี่ยนห้องโดยสารให้กลายเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่ 1.8 เมตร! ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของ AION Y Plus เลยก็ว่าได้ เพราะสามารถนอนบนรถ โดยเปิดแอร์ได้ปลอดภัยหายห่วง ถือว่าตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการรถไฟฟ้าคันใหญ่และเหมาะที่จะเป็นรถไฟฟ้าสำหรับครอบครัว
ประการที่สองคือ ออปชั่นที่ให้มาคุ้มค่ากับราคา หากเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆ โดยมีออปชั่นไฮไลท์อย่าง ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ Level 2 ซึ่งจะมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ทำงานจนถึงจุดหยุดนิ่ง (adaptive cruise control with stop & go) พร้อมด้วยระบบแจ้งเตือนและประคองรถให้อยู่ในเลน, ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่ถูกใจลูกค้าชาวไทยอย่างแน่นอน อย่างระบบระบายอากาศเบาะที่นั่งโดยสารฝั่งคนขับ ช่วยให้การขับขี่ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ เรียกได้ว่า GAC AION ให้ออปชั่นมาอย่างครบครัน
AION Y Plus เป็นรถยนต์ไฟฟ้าราคาจับต้องได้ง่าย ที่มาพร้อมกับออปชั่นแบบครบครัน เช่น V2L ที่ช่วยให้เพลิดเพลินกับกิจกรรมนอกบ้าน เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะข้างคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ และไฟสร้างบรรยากาศ (ปรับตามจังหวะดนตรี) พิเศษในรุ่น AION Y Plus 490 Premium เพิ่มที่วางแขนตรงกลางสำหรับเบาะหลังอีกด้วย
ประการที่สาม ที่แบรนด์ AION ที่สามารถชนะใจลูกค้าได้ก็คือ บริการหลังการขายและสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การรับประกันคุณภาพตัวรถ 8 ปี หรือ 160,000 กม. และให้การรับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ และระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์นานถึง 8 ปี หรือ 200,000 กม. ซึ่งถือว่าครอบคลุมและยาวนานที่สุดในรถระดับ segment เดียวกัน
นอกจากนี้ AION ยังแถม Home Charger พร้อมบริการติดตั้งฟรี, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงนาน 8 ปี, ประกันภัยชั้น 1, บริการจดแจ้งเลขทะเบียนรถฟรี รวมไปถึงของแถมอีกมากมาย จะเห็นได้ว่า AION Y Plus ให้ของแถมและสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามากๆ
สุดท้าย คือเทคโนโลยี Magazine Battery ที่ออกแบบมาให้มีความปลอดภัยและมีความทนทานสูง ถือเป็นอีกจุดขายสำคัญที่ทาง GAC AION ให้ความสำคัญและเน้นย้ำเป็นอย่างมาก
ส่วนใครที่นึกไม่ออกว่าแบตเตอร์รี่ของ AION แตกต่างจากเจ้าอื่นยังไง หลักๆเลยคือเป็นชุดแบตเตอร์รี่ที่ใช้ เซลล์โมดูล แพ็ค ชิ้นส่วนของแบตเตอร์รี่สามารถแยกส่วนได้ หากตัวแบตเตอร์รี่เกิดความเสียหาย ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ยกชุดเหมือนรุ่นอื่นๆ ทั้งนี้ยังได้ทำการทดสอบความปลอดภัย โดยการยิงกระสุนปืนทะลุแบตเตอรี่ ผลที่ได้คือแบตเตอรี่ไม่เกิดการลุกไหม้ หรือระเบิดใดๆ ขึ้น และที่สำคัญตัว Magazine Battery ไม่เคยมีเหตุการณ์แบตเตอรี่ลุกไหม้เลยแม้แต่ครั้งเดียวในประเทศจีน ถือว่าค่อนข้างหมดห่วงสำหรับคนที่จะตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
สุดท้ายนี้ ปัจจัยการเลือกซื้อรถสักคัน เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจนานพอสมควร แต่สิ่งที่ AION Y Plus สามารถชนะใจลูกค้าเหล่านี้ได้ คือความน่าเชื่อถือของแบรนด์และการบริการ และปัจจุบัน GAC AION มีแผนที่จะเปิดศูนย์บริการ 30 แห่งทั่วประเทศ โดยจำนวน 25 แห่งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และตั้งเป้าอนุมัติเปิดศูนย์บริการให้ได้ 50 แห่งภายในสิ้นปี 2566 นี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ GAC AION ได้เปิดให้บริการคลังอะไหล่อย่างเต็มรูปแบบแล้ว และสามารถจัดส่งอะไหล่ได้ทั่วประเทศไทยภายใน 24 ชั่วโมง
ทางเรา Driveautoblog ก็ได้วิเคราะห์ข้อมูลมาให้ทุกคนได้อ่านกัน ไม่แปลกที่ AION Y Plus ถึงขายดีและมียอดจองถล่มทลายในงาน Motor Expo 2023 และในปีหน้าหรือปี 2024 อันใกล้นี้ ทาง GAC AION จะมีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ มาให้เราได้ขับขี่อย่างแน่นอน
