มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ชักธงรบ ส่ง “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่” รุ่นปี 2017 ชิงส่วนแบ่งตลาดรถกระบะไทย ท้าชนด้วยนิยาม “พันธุ์ใหม่ หน้าเข้ม แรงจัด ประหยัดสุด” ยืนยันความเป็นกระบะพันธุ์ใหม่แห่งยุค โดดเด่นทั้งสมรรถนะและความคุ้มค่าจากสุดยอดนวัตกรรม เครื่องยนต์ใหม่ “ไมเวค คลีน ดีเซล (MIVEC Clean Diesel)” ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย ชั้นเยี่ยมและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ดุ-แกร่ง ด้วยกระจังหน้าโครเมียมรมดำสไตล์สปอร์ตโฉมใหม่ โฉบเฉี่ยว ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนพันธุ์แกร่งที่ชื่นชอบความท้าทาย ตั้งเป้าเน้นกลยุทธ์ความคุ้มค่าด้านราคาและแคมเปญการตลาดหลากหลายมัดใจลูกค้า
มร.โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ภูมิใจที่จะนำเสนอรถกระบะ “มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่” กระบะสายพันธุ์ใหม่ของมิตซูบิชิ ที่ลบทุกขีดจำกัดของรถกระบะ ด้วยคำนิยาม “พันธุ์ใหม่ หน้าเข้ม แรงจัด ประหยัดสุด” อันแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของรถที่เยี่ยมยอด ที่สุดแห่งยุค ที่มาพร้อมกับอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดถึง 15.2 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อเทียบกับรถกระบะอื่นๆ ในระดับเดียวกัน แต่ยังคงโฉบเฉี่ยวเร้าใจด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นสไตล์มิตซูบิชิ
มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ MIVEC Clean Diesel เทอร์โบ แปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที ครั้งแรกในรถกระบะกับนวัตกรรมเครื่องยนต์ดีเซลที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบ อลูมินัม อัลลอย บล็อก ช่วยลดน้ำหนักของเครื่องยนต์ พร้อมระบบควบคุมการเปิดวาลว์ไอดีแบบแปรผัน MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System) ลิขสิทธิ์เฉพาะมิตซูบิชิ ที่ช่วยให้อัตราเร่งดีเยี่ยม เผาไหม้หมดจด แรงจัดเต็มขุมพลัง ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่าเดิม 20% โดยประหยัดมากถึง 15.2 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที และเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ แปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.5 ลิตร 178 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที รวมทั้งยังมีเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร มาพร้อมระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ ECU ที่ควบคุมจ่ายเชื้อเพลิง ด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ แรงม้าสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที
ในส่วนของระบบขับเคลื่อน มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ได้ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ SS4-II (Super Select 4WD II All Wheel Control) ในมิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บรุ่น GLS-LTD ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ขับขี่ สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control เพิ่มสมรรถนะการทรงตัวได้ดีขึ้น มั่นใจในการขับขี่บนถนนทางเรียบลื่น และสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc เมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรดง่ายขึ้น ด้วยการเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่มีใน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่
มร.ชกกิ กล่าวต่อว่า มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Get ready to discover the world” สื่อให้เห็นถึง ความเป็น ‘TOUGH NEW DNA’ – “พันธุ์ใหม่ หน้าเข้ม แรงจัด ประหยัดสุด” โดยรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ได้นำผลการสำรวจความต้องการของลูกค้า และนำข้อเสนอของลูกค้ามาพัฒนาปรับปรุงภายใต้แนวคิดความ คุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ (Value for Money) โดยคำนึงถึงเรื่องสมรรถนะ ออพชั่นต่างๆ และราคาที่คุ้มค่า เหมาะกับผู้ที่ ชื่นชอบความท้าทายและรักในการผจญภัยในหลากหลายรูปแบบ
รูปลักษณ์ภายนอกของ รถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ แสดงให้เห็นถึงความมีเอกลักษณ์และดีไซน์เฉพาะตัวของรถยนต์มิตซูบิชิ โดยเฉพาะด้านหน้าที่มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมรมดำสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-XENON HID สไตล์โฉบเฉี่ยว เร้าใจ อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงมากขึ้นด้วยบันไดข้างใหม่ที่ตอบรับกับทุกการใช้งาน ภายใน ถูกออกแบบให้เหนือระดับชั้น ทั้งในห้องโดยสารและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน พร้อมมาตรวัดใหม่ ดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับจอแสดงผล ข้อมูลเอนกประสงค์ (Multi-information display) ที่แสดงผลข้อมูลหลากหลาย และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสาร ด้วยการเสริมพนักพิงศีรษะในที่นั่งตอนหลัง 3 ตำแหน่ง
มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ยังตอกย้ำความเชื่อมั่นในการขับขี่ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัย โดยทุกรุ่นมาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย (RISE Body) พร้อมการออกแบบโครงสร้างส่วนหน้าให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อให้สามารถดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง พร้อม เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง (2-way pretensioner) เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง (Rear Seat Belt
3-Point ELRx3) และเพิ่มจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่งที่เบาะนั่งแถวที่ 2 ตามมาตรฐานความปลอดภัย รวมทั้งระบบนำทางในรถยนต์ (Navigation System) กล้องมองหลังขณะถอยจอด และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Auto Door Lock By Speed Sensing) เมื่อรถมีความเร็ว 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
“ผมขอยืนยันว่าทุกท่านจะไม่ผิดหวัง กับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ กระบะพันธุ์แกร่ง ของมิตซูบิชิคันนี้ ซึ่งมาพร้อมกับนิยาม พันธุ์ใหม่ หน้าเข้ม แรงจัด ประหยัดสุด ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น และ ดีไซน์ที่ทันสมัย มีให้เลือกถึง 16 รุ่น 6 สี วันนี้ เราพร้อมเปิดตัวรถยนต์แห่งความภาคภูมิใจ ด้วยข้อเสนอที่เร้าใจที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเป็นเจ้าของ ได้มากขึ้น” มร.ชกกิ กล่าว
มร.ชกกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาของมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ภายใต้แนวคิด ‘TOUGH NEW DNA’ – “พันธุ์ใหม่ หน้าเข้ม แรงจัด ประหยัดสุด” โดยจะออกอากาศเป็นครั้งแรกในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ พร้อมกันนี้ในช่วงเปิดตัวรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ นี้ บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญที่หลากหลายและโดนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเปิดตัวมิตซูบิชิออกให้ 75,000 บาท รวมประกันภัยชั้น 1 ฟรีค่าแรงในการบำรุงรักษานานสูงสุดถึง 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) พร้อมฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 1 ปี
“ภาพรวมของตลาดรถกระบะในประเทศไทยปีนี้คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 324,000 คัน คิดเป็น 45% ของตลาดรถโดยรวม ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราตั้งเป้าแนะนำรถยนต์ที่มี “ความคุ้มค่า” มากยิ่งขึ้น ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ภายใต้แนวคิดความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ (Value for Money) ที่โดดเด่น ทั้งในเรื่องสมรรถนะและความคุ้มค่าด้านราคามากกว่ารถในระดับเดียวกัน และจะนำมาเป็นแนวทางหลักในการพัฒนารถรุ่นต่างๆ ของบริษัทฯ ต่อไป เรามั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ดังกล่าว ประกอบกับการให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรม CRM ตอบแทนลูกค้า การพัฒนาการบริการหลังการขายของ บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันคุณภาพรถยนต์ (Diamond Warranty) เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) พร้อมด้วยการมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 200 แห่ง โดยช่างผู้เชี่ยวชาญและบริการด้วยคุณภาพ เพี่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด” มร.ชกกิ กล่าวสรุป
ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส นำเสนอราคาที่น่าสนใจ;
- มิตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ลแค็บ ราคาเริ่มต้นที่ 489,000 บาท
- มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ ราคาเริ่มต้นที่ 578,000 บาท
- มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ พลัส ราคาเริ่มต้นที่ 687,000 บาท
- มิตซูบิชิ ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ราคาเริ่มต้นที่ 771,000 บาท
- มิตซูบิชิ ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาเริ่มต้นที่ 964,000 บาท
ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ www.mitsubishi-motors.co.th
มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ รุ่นปี 2017
- การออกแบบภายนอก : เท่ห์ ดุดัน ในแบบไม่เหมือนใคร
- กระจังหน้าโครเมียมรมดำสไตล์สปอร์ต มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-XENON HID สไตล์โฉบเฉี่ยว พร้อมปุ่มปรับระดับไฟหน้า 5 ระดับ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (LED Daytime Running Light) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น พร้อมไฟตัดหมอกหน้าสไตล์สปอร์ต (เฉพาะรุ่น GLS -LTD)
- บันไดข้างดีไซน์ใหม่ ขนาดยาวกว่าเดิมถึง 34 เซนติเมตร
- การออกแบบมุมมองด้านข้างเน้นความเป็นหนึ่งเดียวของห้องโดยสารกับกระบะบรรทุกให้ความรู้สึกถึงการขับเคลื่อนไปข้างหน้า
- เสริมการออกแบบเส้นสาย Character Line ด้านข้างตัวรถช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและอารมณ์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น
- กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
- การออกแบบด้านหลังมีความโค้งมนทันสมัย ชุดไฟท้ายมาพร้อมการออกแบบสไตล์รถเก๋งให้ทอดยาวไปจนถึงด้านข้างของกระบะ พร้อมการซีลขึ้นรูปชิ้นเดียวเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองเข้าโคมไฟ
- กันชนหลังดีไซน์ทันสมัยลงตัว ที่สามารถเป็นบันไดและเป็นกันชนได้ในชิ้นเดียวกัน (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และเมกกะแค็บรุ่น GLX เครื่องยนต์ดีเซล)
- ไฟเบรกดวงที่ 3 บริเวณฝาท้ายกระบะช่วยให้รถที่ตามหลังเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มาพร้อมการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำสุดเพียง 0.42 จากการออกแบบกันชนหน้า หลังคาให้โค้งมน พร้อมการออกแบบเสาเอ (A-pillars) ห้องโดยสารและกระบะให้เรียวไปยังส่วนท้าย ซึ่งนอกจากจะทำให้รถลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์แล้ว ยังช่วยให้รถทรงตัวเยี่ยมที่ความเร็วสูง พร้อมการประหยัดน้ำมันและให้มลพิษต่ำ
- มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มี 6 สีให้เลือก
- สีเขียว (Earth Green)
- สีเงิน (Sterling Silver)
- สีขาวมุก ( White Pearl)
- สีเทา (Titanium Gray)
- สีดำ (Pyreness Black)
- สีขาว (Solid White)
2 . การออกแบบภายใน : เชื่อมั่น….ในความเหนือระดับภายในห้องโดยสารและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
- มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มาพร้อมการพัฒนาการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยการผสมผสานระหว่างสีดำแบบ Piano Black กับการตกแต่งแบบ ซิลเวอร์ เดคคอเรชั่น ที่บริเวณคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ แผงสวิตช์ควบคุมหน้าต่าง และสวิตช์การปรับโหมดขับขี่ พร้อมมาตรวัดแบบ Combination meter ที่ตกแต่งในสไตล์สปอร์ต สามารถปรับแสงสว่างหน้าปัดได้ 8 ระดับ ดูง่ายชัดเจน พร้อมจอแสดงผลข้อมูลเอนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมไปถึงการเตือนต่างๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ
- ที่นั่งตอนหลังพร้อมพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่ง (Rear Seat Headrest X3) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารด้านหลังรู้สึกสะดวกสบายในการโดยสารมากขึ้น
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 4 ก้านหุ้มหนังที่สามารถแบบปรับระดับได้ 4 ทิศทาง โดยสามารถปรับขึ้น-ลง ดึงเข้า-ออกได้
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) เพื่อความสนุกในการขับขี่และควบคุมที่ดียิ่งขึ้น (เฉพาะรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
- ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และเมกะแค็บรุ่น GLX เครื่องยนต์ดีเซล)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เฉพาะรุ่น GLS-LTD AT
- ช่องจ่ายกระแสไฟ 12 โวลต์ 2 จุด บริเวณคอลโซลหน้าและในช่องเก็บของบริเวณคอลโซลกลาง
- โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายเหนือระดับด้วยห้องโดยสารที่เงียบ
- เครื่องเสียง 2 DIN วิทยุ ดีวีดี ซีดี MP3 พร้อมจอภาพระบบสัมผัสและระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) (เฉพาะรุ่น GLS-LTD)
- ระบบนำทางในรถยนต์ (Navigation System) ที่ล้ำสมัย (เฉพาะรุ่น GLS-LTD ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
- เบาะหนัง พวงมาลัยและหัวเกียรหุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น GLS-LTD)
3) สมรรถนะที่โดดเด่น: แรงจัด ประหยัดสุดมิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 แบบ โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ใหม่ MIVEC คลีน ดีเซล เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้า ครั้งแรกในรถกระบะกับนวัตกรรมเครื่องยนต์ดีเซลที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบ อลูมินัม อัลลอย บล็อก พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC แรงจัดเต็ม ขุมพลัง ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 20%
เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4N15 MIVEC คลีน ดีเซล ขนาด 2.4ลิตร
- เครื่องยนต์ใหม่ รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC เทอร์โบ แปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ 2,442 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 20% และลดมลพิษลงได้ถึง 17% พร้อมการทำงานของเครื่องยนต์ที่เงียบขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้
- อลูมินัม อัลลอย บล็อก (Aluminum Alloy Block) ที่น้ำหนักเบา ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีการลดน้ำหนัก ช่วยให้สามารถลดน้ำหนักของเครื่องยนต์โดยรวมได้ถึง 35 กิโลกรัม แต่ยังคงความแข็งแกร่งและทนทาน ระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิง นอกจากนี้การใช้กระบอกสูบแบบเหล็กกล้า (Steel Cylinder Liner) และการติดตั้งโซ่ไทม์มิ่ง จะให้ความทนทาน ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายเรื่องการบำรุงรักษาได้เป็นอย่างดี
- เทอร์โบ แปรผัน (VG Turbo) ให้การทำงานของเครื่องยนต์มีกำลังสูงทั้งในรอบต่ำ รอบกลางและรอบสูงอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองการขับขี่ได้ทันใจในทุกรอบความเร็ว
- ครั้งแรกในรถกระบะกับการติดตั้งระบบ MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System) ลิขสิทธ์เฉพาะมิตซูบิชิ กับระบบควบคุมการปิด-เปิดวาล์วไอดี แบบแปรผันที่ทำงานสอดคล้องกับความเร็วของเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ และได้แรงม้ามากยิ่งขึ้นในรอบสูงให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม เผาไหม้หมดจด ลดมลพิษ
เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4D56 ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์
- มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร ดีเซล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที
เครื่องยนต์เบนซินรหัส 4G64 ขนาด 2.4 ลิตร
- สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร มาพร้อมระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ ECI ที่ควบคุมจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอีเล็กทรอนิกส์ แรงม้าสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
- ระบบขับเคลื่อน SS4-II (Super Select 4WD II All Wheel Control)
- มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บรุ่น GLS-LTD ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ มาพร้อมระบบ Super Select 4WD II ที่ได้รวมระบบขับเคลื่อน 4WD แบบ Part time และ Full Time เข้าด้วยกัน ให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control เพื่อให้รถ ทรงตัวได้ดีขึ้น มั่นใจในการขับขี่บนถนนทางเรียบลื่น และสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc เมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรดง่ายขึ้นด้วยการเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่มีใน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ พร้อมระบบเฟืองท้ายแบบ Diff-Lock ระบบล็อกเพลาหลังที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้าซึ่งช่วยให้สามารถขับเคลื่อนรถผ่านเส้นทางออฟโรดได้ง่ายดายขึ้น
- เชื่อมั่น…ในมาตรฐานความปลอดภัยระดับพรีเมียม
- มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” ทุกรุ่นมาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE Body พร้อมการออกแบบโครงสร้างส่วนหน้าให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สามารถดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย) พร้อมเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง (2-way pretensioner) (เฉพาะดับเบิ้ลแค็บรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ) นอกจากนี้ยังเพิ่มเข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง รวมทั้งจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่ง ที่เบาะนั่งแถวที่ 2 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการโดยสารมากขึ้น ตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5-Star ASEAN NCAP
- กล้องมองภาพหลัง เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นขณะถอยจอด (มีใน GLS-LTD ทุกรุ่น)
- ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ (ESS-Emergency Stop Signal System)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASTC (Active Stability & Traction Control) ซึ่งประสานการทำงานของระบบ ASC ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในสภาวะที่รถเสียสมดุลเพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง และ ATC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถลช่วยควบคุมการหมุนของล้อทั้ง 4 อย่างสมดุล (เฉพาะรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) เพื่อป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรกรถบนทางชันและต้องออกตัวอีกครั้ง (เฉพาะรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
- ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake-Assist) ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเมื่อเหยียบเบรกกะทันหันช่วยให้การหยุดรถเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น (เฉพาะรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
- ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยตามแบบฉบับของมิตซูบิชิ ETACS (Electronic Time and Alarm Control System)
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถมีความเร็ว (Auto Door Lock by Speed Sensing) เมื่อรถมีความเร็ว 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ระบบตัดการทำงานของไฟหน้ารถโดยอัตโนมัติ โดยไฟหน้ารถจะดับเองอัตโนมัติ หลังจากดับเครื่องยนต์ แล้วเปิดประตู ช่วยประหยัดไฟในแบตเตอรี่
- ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับเปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดหยุดเมื่อรถใช้ความเร็วเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดหยุดเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม
- สัญญานเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้า ในกรณีที่ผู้ขับขี่ลืมปิดไฟหรี่หน้าหลังจากดับเครื่องแล้วเปิดประตูจะมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น
- ระบบล็อคเซ็นทรัลล็อกสามารถเปิดหรือปิดล็อกประตูทุกบานด้วยปุ่มควบคุมที่ประตูด้านคนขับ
- ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลนเพียงขยับก้านไฟเลี้ยวเพียงเล็กน้อยสัญญาณไฟเลี้ยวและสัญญาณไฟเตือนในหน้าปัดจะกระพริบ 3 ครั้ง
- กุญแจรีโมทพร้อมระบบควบคุมการพับและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสียหายจากการจอดรถในที่แคบ
- ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสาร เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระภายในรถ
- ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังจากดับเครื่องยนต์กระจกไฟฟ้าจะยังสามารถเปิด-ปิดได้ต่อไปอีก 30 วินาที
- สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิทโดยไฟกระพริบเตือนจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท