เมื่อเร็วๆ นี้ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ร่วมกับ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ และบริษัท โอเรียนเต็ลแท็กซี่เซอร์วิช จำกัด ร่วมฉลองการส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport ใหม่ จำนวน 20 คันที่มาพร้อมกับความหรูหราเหนือระดับ เพื่อเติมเต็มที่สุดแห่งประสบการณ์ความสะดวกสบายระดับพรีเมียมให้แก่ลูกค้า และตอกย้ำชื่อเสียงของโรงแรมในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมการให้บริการ ทั้งนี้ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ได้ให้ความไว้วางใจในยานยนต์หรูจากบีเอ็มดับเบิลยูมาแล้วเป็นเวลากว่า 13 ปี ในการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าระดับวีไอพีโดยเฉพาะ
บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport ได้รับการออกแบบที่เพิ่มความหรูหราและความสปอร์ต โดยยังคงผสมผสานความสะดวกสบายและสมรรถนะการขับขี่ไว้อย่างครบครัน และโดดเด่นด้วยดีไซน์แบบสปอร์ตพร้อมไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวแบบ LED ปรับอัตโนมัติ กระจังหน้าไตคู่ล้อมกรอบโครเมียม และมาพร้อมกับระบบ Air Flap Control ซึ่งจะทำงานเมื่อตัวรถต้องการระบายความร้อน ส่วนห้องโดยสารภายในกว้างขวางและโดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นและดีไซน์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อประสบการณ์การเดินทางที่เหนือกว่าของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยมีการเพิ่มวัสดุลดเสียงรบกวนจากภายนอกห้องโดยสาร รวมถึงอุปกรณ์ภายในเพื่อความสะดวกสบาย ด้วยฟังก์ชั่นนวดไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ขนาด 600 วัตต์ พร้อมลำโพง 16 ตัว รวมถึงหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama ที่ใช้ไฟแอลอีดีบริเวณด้านข้างส่องให้แผ่นกระจกเปล่งประกายระยิบระยับทั่วแผ่น ราวกับเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยผืนดาว
นอกจากนี้ ยังมีระบบความบันเทิงรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลสำหรับผู้โดยสารขนาด 9.2 นิ้ว สามารถปรับและควบคุมระบบต่างๆ ได้อย่างอิสระผ่านสวิตซ์ iDrive ที่ติดตั้งอยู่บริเวณที่พักแขน ซึ่งทำงานร่วมกับ BMW Gesture Control หรือการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ โดยใช้เซ็นเซอร์ 3 มิติจะจับการเคลื่อนไหวของการสั่งงานระบบควบคุมความบันเทิงและการสื่อสาร และสามารถเลือกสั่งการ และควบคุมจากการสัมผัสหน้าจอแท็บเล็ตพกพาขนาด 7 นิ้วด้วยฟังก์ชั่นบีเอ็มดับเบิลยู ทัช คอมมานด์ (BMW Touch Command) ซึ่งสามารถปรับและควบคุมระบบต่างๆ ของรถ เช่น การปรับที่นั่ง แสงไฟภายในตัวรถ การปรับอุณหภูมิ รวมถึงระบบความบันเทิงต่างๆ ระบบนำทาง และระบบการสื่อสาร เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับให้แก่ผู้โดยสาร
นอกจากความหรูหราและระบบความบันเทิงรูปแบบใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld M Sport ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อที่สุดของความสะดวกสบายในทุกการใช้งานของผู้โดยสาร ทั้งห้องโดยสารที่กว้างขึ้นพร้อมสัดส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระที่ลงตัว นอกจากนี้ ยังใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยมอยู่ที่ 17.9 กิโลเมตร/ลิตร พร้อมด้วยระบบช่วงล่างล้อหลังแบบถุงลมสามารถปรับระดับได้อัตโนมัติ เพื่อสุนทรียะในการขับขี่ตลอดการเดินทางของผู้โดยสาร
ในภาพ (จากซ้ายไปขวา)
- คุณวิชัย กมลศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเรียนเต็ลแท็กซี่เซอร์วิช จำกัด
- คุณเกียรติ ไวโรจนานันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเรียนเต็ลแท็กซี่เซอร์วิช จำกัด
- คุณโรเบิร์ท โอ เค็นเนดี ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
- คุณวรสิงห์ หุตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายห้องพัก โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
- คุณอแมนด้า ไฮนด์แมน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
- คุณลาร์ส นีลเซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
- คุณประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
- คุณญาดานันท์ บุนนาค ฝ่ายขายลูกค้าทางการทูตและลูกค้าฟลีต บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และโรลส์-รอยซ์ และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 14 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก
ในปีพ.ศ. 2558 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์ 2.247 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 137,000 คันทั่วโลก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 122,244 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยการคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 โดยประกอบไปด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล
ในปี 2558 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยสถิติยอดขายประจำปีสูงสุดของทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด กับยอดส่งมอบรวมกว่า 10,000 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ มียอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ จำนวน 8,768 คัน เพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 1,280 คัน เพิ่มขึ้น 83 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมเป็นสถิติยอดส่งมอบของทั้งสามแบรนด์ที่ 10,048 คันในปี 2558 ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และนับเป็นการสร้างสถิติแห่งความสำเร็จของแต่ละแบรนด์ ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียน สำหรับในปี 2559 นี้ จะมีการลงทุนเพิ่มอีก 488 ล้านบาท เพิ่มเติมจากยอดเงินลงทุนที่ผ่านมาทั้งสิ้นกว่า 3.7 พันล้านบาท เพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงเตรียมจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 14 ประเทศทั่วโลก
ในปี 2555 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้จับมือกับพันธมิตรเพื่อนำแนวคิดของระบบการศีกษาแบบทวิภาคมาปรับใช้งานในประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือกับหอการค้าไทยเยอรมัน (GTCC) ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) จนเกิดเป็นโครงการการศึกษาระบบทวิภาคีเยอรมัน-ไทย (German-Thai Dual Excellence Education (GTDEE) ซึ่งอยู่ภายใต้ขอบเขตของโครงการ BMW Service Apprentice Program และมีจุดมุ่งหมายเพื่ออบรมความรู้และฝึกฝนทักษะในสายงานด้านช่างเทคนิคให้แก่นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งนอกจากการเรียนรู้ด้านทฤษฎีแล้ว ยังรวมถึงการอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรมของบีเอ็มดับเบิลยู และร่วมปฏิบัติงานกับช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญจากผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ ความร่วมมือในโครงการดังกล่าวนี้ได้ช่วยให้เกิดการพัฒนาความสามารถของนักศึกษาให้เติบโตต่อยอดไปสู่การสร้างแรงงานฝีมือที่เปี่ยมด้วยทักษะ พร้อมร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านศูนย์กลางการผลิตยนตรกรรมระดับโลก
ในภาพ (จากซ้ายไปขวา)
- คุณโรเบิร์ท โอ เค็นเนดี ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
- คุณวิชัย กมลศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเรียนเต็ลแท็กซี่เซอร์วิช จำกัด
- คุณเกียรติ ไวโรจนานันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเรียนเต็ลแท็กซี่เซอร์วิช จำกัด
- คุณอแมนด้า ไฮนด์แมน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
- คุณ ลาร์ส นีลเซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
- คุณวรสิงห์ หุตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายห้องพัก โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ