[taq_review]
เชิญรับชมเทปบันทึกไลฟ์สดรีวิว Mazda 2 MY17 ผ่าน Facebook Live ระหว่างการทดลองขับ
รูปลักษณ์ภายนอก มาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่มีการปรับปรุงสีและพื้นผิวของวัสดุที่ใช้ เพิ่มเสาอากาศแบบครีบฉลาม เปลี่ยนสีล้ออัลลอย และใช้สีภายนอกที่มีมิติลุ่มลึกกว่าเดิม ความสำเร็จของเราในการพัฒนาคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น และได้มาซึ่งสีสันที่ดึงดูดใจมากขึ้นนั้นทำให้การรักษาคุณลักษณะอันโดดเด่นของมาสด้า2 นั้นเป็นไปได้ แต่ได้คุณภาพที่ดียิ่งกว่าเดิม เมื่อรวมกับสีภายในแบบใหม่ที่เรามีในรุ่นนี้แล้ว ก็ยิ่งทำให้การเลือกซื้อมาสด้า2 สนุกสนานยิ่งกว่าเดิม
วันนี้ลอง Mazda 2 MY17 ทั้งตัวเบนซิน 1.3L และดีเซล 1.5L และถ้ายกสีขาวมุกไว้ ก็มี 3 สีนี้แหละที่โดน น้ำตาล แดง และน้ำเงิน เฉดสีเบอร์เดียว Mazda 3…ถ้ามีเวลาเดี๋ยวมา Live กันนะครับ
Posted by driveautoblog on Wednesday, 1 March 2017
มาสด้า2 ใหม่มาพร้อมสีภายนอกสีใหม่ สีน้ำเงินเอเทอนัล บลู ไมก้า, สีแดง โซล เรด, สี อลูมินัม เมทัลลิก, สีขาวมุก สโนว์เฟล, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีเทา เมทิเออ เกรย์ ไมก้า และ สีดำ เจ็ทแบล็ก
การปรับโฉมครั้งนี้เราให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมในการขับขี่ที่ดี ด้วยการออกแบบหน้าจอ Active Driving Display และมาตรวัดต่างๆ แสดงผลให้ชัดเจนอ่านง่ายยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ขับมีสมาธิในการขับรถมากขึ้น
มาสด้า2 ใหม่มีการปรับจูนหลายองค์ประกอบเพื่อให้ความแม่นยำที่มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นแดมเปอร์หน้าและหลัง บูชของช่วงล่าง และคุณลักษณะของพวงมาลัยไฟฟ้า (EPAS) ช่วยให้รถมีเสถียรภาพเป็นเลิศและให้การตอบสนองแม่นยำตามที่ผู้ขับสั่งการ นอกจากนี้ยังช่วยระงับอาการต่างๆที่ส่งผลให้ผู้โดยสารรู้สึกไม่สบายเมื่อนั่งในรถด้วย ทำให้ผู้ขับรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของรถได้ทันทีที่หมุนพวงมาลัย จึงให้การควบคุมที่แม่นยำและนุ่มนวลกว่า เป็นธรรมชาติยิ่งกว่า รถจะตอบสนองได้ตามการบังคับพวงมาลัยไปตามเจตนาผู้ขับ ทำให้ได้สมรรถนะที่ดีกว่าและรื่นรมย์กว่าในการขับ
มีการเซ็ตช่วงล่างให้นุ่มขึ้นโดยเฉพาะตัวบูชที่เหล็กกันโคลงหน้า สามารถให้ตัวได้เมื่อเข้าโค้งก่อนที่เหล็กกันโคลงจะทำงาน ดังนั้น ช่วงล่างตอนหน้าจึงเคลื่อนตัวอย่างราบรื่นและเที่ยงตรง ตัวบูชจะคืนรูปเมื่อน้ำหนักถ่ายเทมาเพิ่มขึ้นในยามเข้าโค้ง เหล็กกันโคลงจะช่วยควบคุม นอกจากนี้ มุมของจุดยึดบูชของทอร์ชั่นบีมก็ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ช่วงล่างหลังนั้นทำงานสอดคล้องกับช่วงล่างตอนหน้า เมื่อช่วงล่างหลังทำงานทันทีที่ช่วงล่างหน้าเริ่มทำงาน ระบบก็จะทำให้ตัวรถเคลื่อนที่ได้อย่างมั่นคง การปรับแต่งพวงมาลัยไฟฟ้าช่วยควบคุมตัวรถได้เมื่อเริ่มหมุนพวงมาลัย และช่วยให้ควบคุมพวงมาลัยได้ดีขึ้นยามเข้าโค้ง และมั่นคงขึ้นเมื่อขับรถในทางตรง
โครงสร้างวาล์วภายในแดมเปอร์หน้าและหลัง มีการปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสั่นสะเทือนสู่ห้องโดยสาร การขับขี่จึงนุ่มนวล ราบรื่นและสะดวกสบาย การปรับเปลี่ยนมุมจุดยึดของบูชที่ทอร์ชั่นบีมนี้ช่วยลดการโยนตัวไปมาของล้อหลังด้วย
การปรับแต่งลักษณะแฝงของบูชหลังที่แขนล่างของช่วงล่างหน้าทำให้ได้มาซึ่งจังหวะที่มั่นคง ในขณะเดียวกันเราเปลี่ยนบูชใหม่ให้ได้โครงสร้างที่ตำแหน่งของแขนยึดนั้นอยู่กึ่งกลางตัวบูชพอดี เมื่อล้อสัมผัสกับพื้นถนนและมีการถ่ายน้ำหนักลงสู่ช่วงล่าง ตัวบูชแบบเดียวกันนี้ยังใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ของมาสด้า ช่วยให้ทุกรุ่นขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลและนั่งสบาย
SKYACTIV-D 1.5L Turbo มาพร้อมกับ 3 เทคโนโลยีใหม่ High-Precision DE Boost Control ช่วยเพิ่มการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ฉับไวกว่าเดิมเมื่อคันเร่งอยู่ในสภาพที่ภาระเครื่องยนต์มีน้อย ช่วยเพิ่มการควบคุมแรงบิดที่แม่นยำด้วยการปรับและควบคุมแรงดันของการฉีดน้ำมันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คันเร่งที่ให้การตอบสนองได้อย่างทันทีทันใดในสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลายโดยเฉพาะในเมือง ช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปตามใจปรารถนาของผู้ขับ
Natural Sound Smoother ลดเสียงน็อคของเครื่องยนต์ดีเซล เทคโนโลยีนี้จะช่วยลดการสั่นสะเทือนของชุดลูกสูบและก้านสูบในขณะจุดระเบิด ด้วยการใส่แดมเปอร์ลงในช่องว่างของสลักลูกสูบ ช่วยลดเสียงน็อคของเครื่องยนต์ดีเซลไปได้กว่า 3.5 กิโลเฮิร์ตซ์ ซึ่งเสียงนี้จะดังเป็นพิเศษเมื่อติดเครื่องอยู่กับที่หรือกำลังเร่งเครื่องอย่างช้าๆ การขับขี่จะเงียบและนุ่มนวลมากขึ้น เสียงของเครื่องยนต์ก็จะเร้าใจมากขึ้นด้วย
Natural Sound Frequency Control ลดเสียงดังและปรับปรุงคุณภาพเสียง ช่วยลดเสียงน็อคของเครื่องยนต์ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับปรุงความเงียบในห้องโดยสารของเครื่องยนต์ดีเซล และปรับปรุงคุณภาพเสียงเครื่องยนต์ในขณะเร่งด้วย
มาสด้าวินิจฉัยว่าองค์ประกอบหลักของเสียงน็อคเครื่องยนต์นั้นมาจากคลื่นเสียงสี่ประเภทที่เกิดจากความถี่สูงสุดเมื่อส่วนต่างๆกระทบกัน มาสด้าได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Natural Sound Smoother เพื่อดูดซับคลื่นเสียงที่ดังที่สุดอันเกิดจากการสั่นสะเทือนของลูกสูบที่คลื่นความถี่ประมาณ 3.5 กิโลเฮิร์ตซ์ เทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นเพื่อกำจัดคลื่นเสียงที่เหลืออีก 3 คลื่นด้วยการปรับแต่งเวลาจุดระเบิดให้เกิดคลื่นต่ำซึ่งหักลบกับคลื่นความถี่สูงสุดที่เกิดขึ้น ผลที่ได้คือ เสียงเครื่องน็อคที่ลดลงโดยไม่ลดทอนสมรรถนะของเครื่องยนต์และการประหยัดน้ำมัน
i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงจากมาสด้านั้นมีรากฐานมาจากปรัชญาความปลอดภัยของมาสด้า ผสานกับโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟที่มีน้ำหนักเบา ความทนทานสูง และอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด อันส่งผลให้มาสด้า2 นั้นมีมาตรฐานที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน
มาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่นี้มีการปรับปรุงด้านความปลอดภัย อันรวมถึงการรับรู้ได้ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น การขับขี่ที่ปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสียหายที่เกิดขึ้น เป้าหมายสูงสุดของเราก็คือการให้ผู้ขับขี่อยู่ในสภาพที่มีประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้น
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring : ABSM) ระบบนี้ใช้เซนเซอร์เรดาร์คลื่นกึ่งสั้น ในการตรวจสอบรถที่เข้าใกล้จากพื้นที่จุดบอดที่ด้านข้างและด้านหลังเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ในการตรวจสอบความปลอดภัยอีกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงช่องทาง ระบบนี้จะทำงานที่ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือมากกว่า (ความเร็วขึ้นกับข้อกำหนดของแต่ละตลาดที่จำหน่าย) ถ้าคนขับเปิดสวิตช์ไฟเลี้ยวในขณะที่ ABSM ตรวจจับรถที่เคลื่อนที่มาด้านหลัง ระบบจะส่งภาพกระพริบในกระจกมองข้างที่ประตูด้านๆนั้นและส่งเสียงเตือนด้วย
ระบบ ABSM ใช้เซนเซอร์ประเภทเดียวกับระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ซึ่งแจ้งเตือนให้คนขับเมื่อตรวจพบรถใกล้เข้ามาจากด้านใดด้านหนึ่งของด้านหลังรถ ช่วยให้คนขับมั่นใจว่ามันมีความปลอดภัยที่ถอยออกมาจากโรงรถหรือที่จอดรถ