บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เผยโฉมรถยนต์คอมแพคระดับพรีเมียมครบครัน นับตั้งแต่บีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Tourer Luxury รถยนต์อเนกประสงค์ MPV รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยู ไปจนถึงบีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู 218i Coupe M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 218i Active Tourer M Sport ในงาน BMW Xpo 2015 ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 10-13 กันยายน 2558 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยภาพลักษณ์และชื่อเสียงของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จึงสามารถสร้างยอดขายในช่วงเจ็ดเดือนที่ ผ่านมาได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยส่งมอบรถยนต์ไปแล้วกว่า 4,208 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 7 เปอร์เซ็นต์ และยังสูงกว่ายอดขายรวมของปี พ.ศ. 2554 อีกด้วย สำหรับมินิ ในประเทศไทยนั้น ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์คอมแพคหรูของเมืองไทยไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 22 เปอร์เซ็นต์ ด้วยจำนวนส่งมอบ 560 คัน ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี 2558 นี้ ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ยังคงครองความสำเร็จด้วยจำนวนส่งมอบรถ 666 คัน ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 140 เปอร์เซ็นต์ และยังสูงกว่ายอดขายรวมตลอดปี 2556 ซึ่งมีจำนวนส่งมอบรถอยู่ที่ 400 คัน”
“BMW Xpo 2015 เป็นการรวบรวมสุดยอดรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นของบีเอ็มดับเบิลยู เพื่อให้ทุกคนได้ประจักษ์ถึงศักยภาพของเรา ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงความเชี่ยวชาญ ด้านเทคโนโลยี การออกแบบ และวิศวกรรม
และด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยู ทำให้รถยนต์พรีเมียมรุ่นล่าสุดเหล่านี้พร้อมมอบประสบการณ์ การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม รองรับการใช้งานได้ในหลากหลายสถานการณ์ ทั้งยังครบเครื่องด้วยความสง่างาม อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ตลอดระยะเวลา 4 วันของงาน BMW Xpo นี้ ลูกค้าของบีเอ็มดับเบิลยูจะได้พบกับยานยนต์หลากหลายรุ่น พร้อมข้อเสนอพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Gran Tourer เป็นรถยนต์คอมแพคระดับพรีเมียมรุ่นแรก ที่รองรับผู้โดยสารได้มากถึงเจ็ดที่นั่ง จึงตอบสนองได้ทุกความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ ถึงแม้ตัวรถจะดูมีขนาดกะทัดรัดจากภายนอก แต่กลับมีความยืดหยุ่นอย่างเหนือชั้นในการปรับใช้งานห้องโดยสาร ด้วยเบาะแถวสองซึ่งเลื่อนและปรับพนักพิงได้ พร้อมด้วยเบาะแถวสามซึ่งสามารถพับลงให้ราบกับพื้น และสามารถติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กได้ถึงห้าที่นั่งด้วยกัน
ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics และ ConnectedDrive ล่าสุด ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Gran Tourer เป็นผู้นำด้านความปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และการเชื่อมต่อสื่อสารภายในรถ นอกจากนี้ การขับขี่สไตล์สปอร์ตแบบบีเอ็มดับเบิลยูก็ช่วยให้รถยนต์รุ่นนี้ผสมผสานทั้งประโยชน์ใช้สอย และความเพลิดเพลินของผู้ขับขี่เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวเหนือใคร
บีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Tourer Luxury ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังบีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ เบนซิน สามสูบ ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้าที่ 4,400 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตรที่ 1,250 รอบต่อนาที จึงทำให้เร่งความเร็วจากศูนย์ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 9.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 202 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่กลับประหยัดน้ำมันถึง 18.5 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 เพียง 125 กรัมต่อกิโลเมตร
บีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Tourer Luxury รองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึงเจ็ดคน และมีพื้นที่เก็บของยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนความจุได้ที่ 560 ลิตร ถึง 1,820 ลิตร บีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Tourer Luxury ราคา 2,699,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู 218i Coupe M Sport เป็นรถยนต์คูเป้รุ่นเริ่มต้นในบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซินสามสูบที่ทั้งตอบสนองรวดเร็ว เดินเครื่องได้เรียบลื่น และประหยัดน้ำมัน โดยเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตรนี้ให้กำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ / 136 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,250 รอบต่อนาที ทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ซึ่งประกอบด้วยซูเปอร์ชาร์จเจอร์ที่ติดตั้งไว้ในท่อร่วมไอเสีย ระบบหัวฉีดน้ำมันแบบใหม่ ระบบควบคุมวาล์วแบบแปรผัน VALVETRONIC รุ่นล่าสุด และระบบควบคุมเพลาลูกเบี้ยวแบบแปรผัน Double VANOS เครื่องยนต์ ของบีเอ็มดับเบิลยู 218i Coupe M Sport ถูกติดตั้งไว้ตามทางยาวในส่วนหน้ารถตามรูปแบบมาตรฐาน แต่มีน้ำหนักเบา จึงช่วยให้ตัวรถมีอัตราส่วนน้ำหนักที่เพลาหน้าและเพลาหลังที่เกือบสมดุลแบบ 50:50
ส่วนชุดตกแต่งพิเศษ M Sport ในรุ่นนี้ ประกอบด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วในดีไซน์ double spoke ชุดแต่งแอโรไดนามิคแบบ M รอบคันที่มีทั้งท่อรับไอดีขนาดใหญ่ด้านหน้า สเกิร์ตข้าง ดิฟฟิวเซอร์ในส่วนท้าย และเส้นสายขอบหน้าต่างสีดำเงาในสไตล์บีเอ็มดับเบิลยู ห้องโดยสารโฉบเฉี่ยวสไตล์ M เช่นกัน ด้วยโลโก้ M ที่บันไดรถ เบาะหน้าแบบสปอร์ตหุ้มผ้าอัลคันทาราพร้อมประดับด้วยลายผ้าแบบ M แถบตกแต่งคอนโซลอะลูมิเนียมลาย Hexagon ในสีดำวาววับ พวงมาลัยหุ้มหนังแท้แบบ M แผงหน้าปัดดีไซน์ไม่ซ้ำใคร และหลังคาตกแต่งสีดำแอนทราไซต์จาก BMW Individual บีเอ็มดับเบิลยู 218i Coupe M Sport ราคา 2,599,000 บาท
รถยนต์คอมแพคพรีเมียมรุ่นล่าสุดนี้ ครบเครื่องด้วยความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยภายใน สมรรถนะการขับขี่และรูปลักษณ์ที่สง่างามในแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยู โดยเป็นรถยนต์รุ่นที่สองในซีรี่ส์ 2 ใหม่ ต่อจากรุ่นคูเป้ บีเอ็มดับเบิลยู 218i Active Tourer ถือเป็นรถที่เปี่ยมด้วยความสปอร์ตจากทุกมุมมอง ด้วยขนาดตัวถังที่กะทัดรัด แต่กลับมีห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกกว้างขวาง โอ่อ่า จึงพร้อมรับมือกับ ทุกความท้าทายของการขับขี่ในตัวเมือง
เครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ สามสูบ ทำงานประสานกับเทคโนโลยี EfficientDynamics และระบบ ConnectedDrive เพื่อการเชื่อมต่อแบบรอบด้าน เพื่อสร้างประสบการณ์ การขับขี่ที่มุ่งเน้นสมรรถนะแบบสปอร์ตและความประหยัดน้ำมัน
ชุดตกแต่งพิเศษ M Sport เปิดโอกาสให้นักขับได้ปรับแต่งรูปลักษณ์ของรถในทุกด้าน ทั้งชุดแต่ง แอโรไดนามิคแบบ M รอบคัน ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วในดีไซน์ double spoke พวงมาลัย หุ้มหนังแท้แบบ M และเบาะนั่งสไตล์สปอร์ตที่หุ้มด้วยวัสดุพิเศษ ซึ่งล้วนแล้วแต่เสริมให้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer ดูสวยสง่ายิ่งขึ้นบนท้องถนน บีเอ็มดับเบิลยู 218i Active Tourer M Sport ราคา 2,499,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู 118i รุ่นล่าสุดนี้ พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยขุมพลังใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics เป็นคุณสมบัติมาตรฐาน พร้อมด้วยการปรับแต่งรายละเอียดด้านดีไซน์มากมายทั้งภายในและภายนอกรถ โดยเพิ่มชุดอุปกรณ์ในรุ่นมาตรฐาน ควบคู่ไปกับออปชั่นใหม่ที่หลากหลาย เสริม ทั้งประโยชน์ใช้สอยและรูปลักษณ์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ เบนซิน ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า จึงเร่งความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 8.7 วินาที ทั้งยังใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่าด้วยอัตราการเผาผลาญน้ำมัน 16.9 กิโลเมตรต่อลิตร และมีระดับการปล่อย ก๊าซ CO2 เพียง 137 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
นอกจากชุดอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครันแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู 118i ยังมีชุดตกแต่งพิเศษ M Sport ที่มีทั้งล้ออัลลอย M Sport ขนาด 18 นิ้ว แถบตกแต่งคอนโซลอะลูมิเนียมลาย Hexagon ชุดแต่งแอโรไดนามิกแบบ M พร้อมด้วยเส้นสายขอบหน้าต่างสีดำเงาแบบ M และพวงมาลัยหุ้มหนังแท้แบบ M Sport
บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport พร้อมให้เป็นเจ้าของได้ผ่านทางผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ ในราคา 2,099,000 บาท
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มีการเปิดตัวสุดยอดมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์สปอร์ต บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และ S 1000 RR ซึ่งประกอบในประเทศไทยเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยรุ่นพิเศษอย่างบีเอ็มดับเบิลยู R nineT ลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งผลิตขึ้นเพียง 15 คันเท่านั้น”
ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยู ทำให้รถยนต์พรีเมียมรุ่นล่าสุดเหล่านี้พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม รองรับการใช้งานได้ในหลากหลายสถานการณ์ ทั้งยังครบเครื่องด้วยความสง่างาม อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ตลอดระยะเวลา 4 วันของงาน BMW Xpo นี้ ลูกค้าของบีเอ็มดับเบิลยูจะได้พบกับยานยนต์หลากหลายรุ่น พร้อมข้อเสนอพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส และขยายระยะเวลาการรับประกันสูงสุดถึง 6 ปีหรือ 120,000 กิโลเมตร สำหรับรถบีเอ็มดับเบิลยู รุ่นที่ร่วมรายการ
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT ลิมิเต็ด เอดิชั่น ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของมอเตอร์ไซค์สุดคลาสสิคอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู R 32 ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกที่ผลิตขึ้นภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู โดยออกแบบและผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์กว่า 90 ปี ของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยเฉพาะ
บีเอ็มดับเบิลยู R nineT มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะแบบ flat twin ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ขนาดความจุ 1,170 ซีซี อัตราส่วนกำลังอัด 12.0:1 ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 81 กิโลวัตต์ (110 แรงม้า) ที่ 7,550 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 119 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที ทั้งยังมีระบบคลัทช์แบบ single dry plate เกียร์ไฮดรอลิค 6 สปีดระบบเฟืองฟันเกลียว ขับเคลื่อนด้วยเพลาขับ
เนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จึงได้นำมอเตอร์ไซค์ R nineT ลิมิเต็ด เอดิชั่น รุ่นพิเศษมาจำหน่ายเพียง 15 คันเท่านั้น โดยทุกคันจะมาพร้อมกับชุดแต่งพิเศษจากฝีมือการออกแบบของตำนานนักบิด Roland Sands ทั้งในส่วน breast plate และ valve cover พร้อมถังน้ำมันตกแต่งพิเศษแบบอะลูมิเนียม รวมถึง aluminium tail-hump, custom seat, knee pad และตราสัญลักษณ์พิเศษสำหรับรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R nineT ลิมิเต็ด เอดิชั่น ราคา 1,190,000 บาท
บิ๊กไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ยังคงเป็นผู้นำในตลาดนี้ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 1,170 ซีซี อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 146 กิโลวัตต์ (199 แรงม้า) ที่ 13,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 113 นิวตัน-เมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที ด้วยระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบไฟฟ้า
บิ๊กไบค์รุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวในหลากหลายเฉดสี ไม่ว่าจะเป็นสีดำ Black Storm Metallic หรือ สี Two-Tone ที่ผสานความปราดเปรียวของสีแดง Racing Red เข้ากับสีขาว Light White และชุดสี Tricolor ที่ประกอบด้วย Light White, Lupin Blue Metallic และ Racing Red
สำหรับรุ่นมาตรฐานในประเทศไทย ให้โหมดขับขี่เป็นแบบโปร ซึ่งมีทั้งโหมด Rain, Sport, Race, Slick และ User พร้อมเทคโนโลยีระบบ Dynamic traction-Control (DTC), Pro Gear Shift Assist และ Dynamic Damping Control (DDC) บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ราคา 820,000 บาท และราคา 840,000 บาทสำหรับรุ่นสี Two-Tone
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รุดหน้าต่อยอดความสำเร็จของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล R ด้วยบิ๊กไบค์ S 1000 R รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน อัตราส่วนกำลังอัด 12.0:1 และระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์ (160 แรงม้า) ที่ 11,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 112 นิวตัน-เมตร ที่ 9,250 รอบต่อนาที
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R มีให้เลือก 3 เฉดสี ได้แก่ สีแดง Racing Red สีดำ Black Storm Metallic และสีขาว Light White ราคา 635,000 บาท
สำหรับลูกค้าผู้เป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i ที่ซื้อจากผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู i อย่างเป็นทางการเท่านั้น โดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้เปิดตัวสถานีชาร์จ บีเอ็มดับเบิลยู i แห่งแรก ในลานจอดรถชั้นใต้ดินของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วย บีเอ็มดับเบิลยู i pure Wallbox เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ของรถยนต์ในตระกูลนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สถานีชาร์จบีเอ็มดับเบิลยู i นี้ ติดตั้งอยู่ใกล้กับเสาหมายเลข E27 ของที่จอดรถชั้นใต้ดิน
โดยเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i ที่ได้รับสติ๊กเกอร์พิเศษบีเอ็มดับเบิลยู i จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะสามารถจอดและชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ได้ที่สถานีดังกล่าวโดยไม่มีค่าบริการใดๆ
BMW xDrive Xperience
ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูยังสามารถพบกับประสบการณ์การขับขี่สุดพิเศษกับรถยนต์ SAV ในซีรี่ส์ X บนสนาม ที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ ณ บริเวณด้านหน้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับดีไซน์อันทรงพลัง ห้องโดยสารที่โอ่อ่าหรูหรา ดีไซน์ภายในแบบอเนกประสงค์ และการขับขี่ที่เพลิดเพลินและประหยัดพลังงาน
ข้อเสนอพิเศษในงาน BMW Xpo 2015
ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่จองรถใหม่ภายในงาน BMW Xpo 2015 โดยมีกำหนดรับรถภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2558 จะได้รับแพ็คเกจ BMW Service and Extended Warranty ซึ่งขยายเวลาอีกหนึ่งปีเต็ม โดยเพิ่มจาก 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เป็น 6 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (ยกเว้นบีเอ็มดับเบิลยู 218i Coupe / Active Tourer / Gran Tourer)