และแล้วก็ถึงเวลาที่อีซุซุขยับ จับดีแมคซ์ ไมเนอร์เชนจ์เพื่อต่อกรกับศึกปิ๊กอัพในตลาดเมืองไทย ที่ดูเหมือนอุณหภูมิจะเริ่มร้อนระอุคุกรุ่นขึ้นมา หลังจากคู่แข่งทยอยเปิดตัวทั้ง รุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์ ไม่ว่าจะเป็นนิสสัน นาวาร่า มิตซูบิชิ ไทรทัน และโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รวมไปถึงการเปิดตัวรุ่นใหม่แบบไมเนอร์เชนจ์ของ ฟอร์ด เรนเจอร์ และมาสด้า บีที-50 โปร
ไฮไลท์ในการปรับโฉมครั้งนี้ของอีซุซุ ดีแมคซ์ อยู่ที่เครื่องขนาด 1.9 ลิตร ใหม่ ให้พละกำลังถึง 150 แรงม้า ที่จะมาประจำการทำตลาดแทนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เดิม โดยเครื่อง 1.9 ลิตรใหม่ จะทำงานคู่กับ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะลูกใหม่ด้วยเช่นกัน ก่อนจะเล่าถึงเครื่องยนต์ใหม่ มาเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงรูปโฉมภายนอกตัวรถกันก่อนครับ
จุดที่เปลี่ยนชัดเจนสุด ก็เป็นด้านหน้าครับ เริ่มที่กระจังหน้ายังคงเอกลักษณ์เดิมของอีซุซุ เป็นกระจังหน้าแบบซ้อนกันสองชั้น มีขนาดใหญ่ขึ้น ความโฉบเฉี่ยวลดลง แต่เพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น พื้นที่ของกระจังหน้านั้น เว้ากินพื้นที่ในส่วนของฝาประโปรง ซึ่งฝากระโปรงของ อีซุซุ ดีแมคซ์ ในรุ่นนี้ ได้มีการออกแบบใหม่ด้วยเช่นกัน เพื่อรับกับกระจังหน้า
โคมไฟหน้ารมดำดีไซด์ใหม่ คล้ายของเดิม ดูคมขึ้น พร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ และมีไฟเลี้ยวอยู่ในชุดโคม และยังย้ายไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL ออกแบบใหม่ทรงตัว L มาไว้ในโคมเพื่อความทันสมัย จากรุ่นเดิมที่อยู่ในตำแหน่งไฟตัดหมอก เมื่อไฟ DRL ย้ายไปอยูในโคมแล้ว ก็ทำให้ไฟตัดหมองกลับมาอีกครั้งในรุ่นใหม่นี้ สวยขึ้นทันตา นอกจากนั้น ยังออกแบบช่องดักลมให้รับกับกระจังหน้า ซึ่งในรุ่นยกสูง (Hi-Lander) กับรุ่น สเปซแค็บ (Spacecab) ก็ไม่เหมือนกันครับ
จากรูปด้านบน จะเห็นว่า อีซุซุ รุ่นสเปซแค็บ บริเวณช่องดักลมจะเป็นแนวยาวโค้งคว่ำลง และที่ตำแหน่งไฟตัดหมอก มีเส้นสายเป็นรูปตัว L โค้วคว่ำลงเช่นกัน
ด้านข้างตัวรถยังคงเส้นสายและการออกแบบเดิมไว้ครบถ้วน บันไดข้างก็เป็นชิ้นเดิม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวยังคงอยู่ ที่เปลี่ยนคือ ล้อแม็ก 6 ก้าน ลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว สีซิลเวอร์ ให้ความสปอร์ตมากกว่ารุ่นเดิม ขนาดยาง 255/60R18 ทั้งรุ่น V-Cross และ Hi-Lander จะได้ล้อแม็กลายเดียวกัน
ฝากระบะท้ายออกแบบใหม่เช่นกันครับ ตรงขอบกระบะออกแบบให้มีเชฟยื่นออกมา มีมิติคล้ายๆกับเป็นสปอยเลอร์ (ในรุ่นเดิมก็ยื่นออกมานะครับ แต่ไม่มากขนาดนี้) กล้องมองหลังรวมอยู่ในชุดเปิดฝาท้าย เส้นสายกลางกระบะทำเป็นแนวสันโป่งนูนขึ้นชัดเจนครับ
มุมล่างซ้ายติดเพลท ISUZU D-Max มุมขวา เป็ด Z Ddi (ตัว i สีฟ้า) แสดงถึงการใช้เครื่องยนต์เทคโนโลยี บลู เพาเวอร์ ส่วนไฟท้าย และกันชนยังคงเหมือนเดิม
ภายในห้องโดยสารโดยรวมยังคงเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคืออุปกรณ์ครับ อีซุซุ ดีแมคซ์ ใหม่ ติดตั้งระบบความบันเทิงที่เรียกว่า Isuzu Connect World ที่มีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเล่นไฟล์ต่างๆ จาก DVD,MP3,WMA และ AAC พร้อมช่องต่อ USB นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับ ipod,iphone,Smartphone,ช่อง HDMI เพื่อเชื่อมต่อกับ Smartphone ระบบ Android,รองรับสัญญาณภาพจากกล้องมองหลัง และการเชื่อมต่อด้วยสัญญาณบลูทูธ
ประบบปรับอากาศอัตโนมัติยังคงอยู่ในรูปแบบการใช้งานเดิม เช่นเดียวกับปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย แต่ยังคงไม่มองไม่เห็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครุยซ์คอนโทรล ยังไม่ใส่มานั่นเองครับ สิ่งที่เพิ่มเข้ามาภายในห้องโดยสารอีกอย่างก็คือ ระบบ Isuzu Surround Sound System ที่มีลำโพงบนเพดาน เป็นระบบเสียงรอบทิศทาง รวมลำโพงทั้งหมด 8 ลำโพง
หน้าปัดเรือนไมล์ แบบ Super Vision ดีไซด์แบบ 3 มิติ มองเห็นชัดเจน ตัวหนังสือขนาดใหญ่ พร้อมสัญญาณไฟบอกตำแหน่งเกียร์ และแจ้งเตือนให้เปลี่ยนเกียร์ในรอบความเร็วที่เหมาะสม
เบาะนั่งทรงเดิม หนังสีดำ ปรับไฟฟ้า ในรุ่นท๊อป นุ่มดีครับ ภายในอุปกรณ์ต่างๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง หรือย้ายตำแหน่งใดๆ ผมก็เก็บภาพมาฝากกันให้ได้เห็นพอหอมปากหอมคอ
เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์เดิม ที่นำมาปรับปรุงเพิ่มเติม ให้กำลังม้าเท่าเดิมที่ 177 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร ซึ่งดูจากตัวเลข ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่า ปรับอะไรมาบ้าง เพราะแรงม้าแรงบิดก็เท่าเดิม แล้วก็ยังคงใช้เกียร์ 5 จังหวะเหมือนเดิมครับ
อีซุซุ ดีแมคซ์ รุ่นใหม่ ทำตลาดด้วยกันทั้งหมด 2 เครื่องยนต์ โดยยุติการทำตลาดของเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ทันที นำเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด บลูเพาเวอร์ 1.9 ลิตร มาทำตลาดแทน
สำหรับเครื่องยนต์บลูเพาเวอร์ 1.9 ลิตร (1,898) เป็นเครื่องยนต์คอมมอนเรล 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) พร้อม วีจีเอส เทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ อัตราส่วนกำลังอัด 16.5:1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ 6 จังหวะ รุ่นใหม่
เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร รุ่นใหม่นี้ มีน้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เดิม ถึง 60 กิโลกรัม และทางอีซุซุเคลมต่ออีกว่า ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 19% จริงเท็จประการใด ก็คงต้องรอผู้ใช้งานจริง หรือจะผมมีโอกาสได้ขับก็คงจะได้ทราบกัน
แต่แน่นอนว่าเครื่องเล็กๆแบบนี้ ภาษีประจำปีก็จะถูกลง อัตราการปล่อยมลพิษก็น่าจะดีขึ้นตามไปด้วยครับ
ส่วนในรุ่น เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์เดิม ที่นำมาปรับปรุงเพิ่มเติม ให้กำลังม้าเท่าเดิมที่ 177 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร ซึ่งดูจากตัวเลข ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่า ปรับอะไรมาบ้าง เพราะแรงม้าแรงบิดก็เท่าเดิม แล้วก็ยังคงใช้เกียร์ 5 จังหวะเหมือนเดิมครับ
สรุป New Isuzu D-max มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ เลยก็คือ ด้านหน้าใหม่ ไฟตัดหมอกกลับมา ท้ายใหม่ ล้อแม็กลายใหม่ 6 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว และล้อแม็ก 5 ก้าน ขนาด 16 นิ้ว ในรุ่น Spacecab ภายในเติมเต็มด้วยระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ ชัดเจนที่สุดก็เห็นจะเป็น จอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
ไฮไลท์อยู่ที่ การติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่บลูเพาเวอร์ 1.9 ลิตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ โดยในรุ่น V-Cross ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังคงใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร พละกำลังเครื่องยนต์เท่าเดิม แบ่งเป็น 23 รุ่นย่อย ในการเปิดตัวครั้งนี้ ยังไม่มีเกียร์อัตโนมัติเข้า โดยแบ่งเป็น 23 รุ่นย่อย ซึ่งเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ใหม่ นี้ ต่อภาษีรายปีสบายกระเป๋าครับ